กรุงเทพฯ 3 ส.ค.-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมสนับสนุนค่ายรถยนต์ผลิตรถไฟฟ้าพลังงานทดแทน
ขณะที่โตโยต้า ระบุหลังหารือบีโอไอเพื่อขอใบอนุญาต
เตรียมนำส่งสรรพสามิตผลิตรถยนต์ไฮบริด ย้ำราคาลดลงจากปัจจุบันร้อยละ 50
เพราะภาษีถูกลงครึ่งหนึ่ง ชี้อีก 10 ปี รถไฮบริดแน่นตลาด
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
ร่วมเปิดงาน Toyota
expo the Future is here และย้ำว่า จากนโยบาย Thailand 4.0 รัฐบาลจึงต้องการผลักดันให้ค่ายรถยนต์ปรับตัวในการพัฒนาเทคโนโลยี
นวัตกรรม รองรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายยายนต์แห่งอนาคต ซึ่งโตโยต้าเป็นตัวอย่างให้กับผู้ผลิตรถยนต์หลังจากได้เสนอขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ
ขณะที่ค่ายรถยนต์อื่นกำลังเจรจาคาดว่าจะเสนอคณะกรรมการบีโอไอส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฮบริดได้ในเร็ว
ๆ นี้ เพราะกระแสการใช้พลังงานทดแทนกำลังมาแรง
นอกจากนี้ยังเตรียมหารือค่ายรถยนต์
สถาบันการศึกษา ช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า
ร่วมอบรมให้ความรู้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและรายย่อย
เพื่อพัฒนาบุคคลากรเพิ่มเติมให้สอดรับกับการพัฒนาอุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมาย และในช่วงเดือนกันยายนนี้
รัฐบาลญี่ปุ่นพร้อมเดินทางมาร่วมฉลองความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนไทย-ญี่ปุ่น 130 ปี จึงมีนักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาร่วมงานกว่า
500 คน
เพื่อลงพื้นที่ในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC นับเป็นการสร้างความเชื่อนั่นต่อนักลงทุนต่างชาติ
ที่ต้องการเข้ามาขยายการลงทุนในประเทศไทย
นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ ประธานกรรมการ บริษัท
โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า
หลังจากคณะกรรมการบีโอไอเห็นชอบส่งเสริมขยายกิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสม (Hybrid Electric Vehicles – HEV) กำลังการผลิตปีละ
70,000 คัน
การผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ปีละประมาณ 70,000 ชิ้น และชิ้นส่วนยานพาหนะ เช่น DOOR, BUMPER และ FRONT/REAR AXLE ปีละประมาณ 9,100,000 ชิ้น
เงินลงทุนรวม 19,016 ล้านบาท
มีการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ ประมาณ 13,314 ล้านบาทต่อปี
ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ จังหวัดฉะเชิงเทรา
นับว่าตั้งอยู่ในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกที่รัฐบาลต้องการส่งเสริม หลังจากนี้โตโยต้า
ต้องหารือร่วมกับบีโอไอเพื่อขอรับบัตรส่งเสริมการลงทุน
เพื่อนำไปยื่นกับกรมสรรพสามิตในการขอลดภาษีการผลิตรถยนต์ไฮบริด
เมื่อภาษีลดลงร้อยละ 50 จะทำให้ราคารถยนต์แคมรีไฮบริดลงลงตามภาระภาษี
เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนใช้รถยนต์ประหยัดพลังงาน
“คาดว่าในอีก 10 ปี ข้างหน้า รถยนต์ไฮบริดในตลาดรวมจะมีจำนวนถึงร้อยละ
80 ของจำนวนทั้งหมด
ส่วนรถไฟฟ้ายังต้องรออีกเกิน 10 ปีขึ้นไป
เพราะยังพัฒนาการด้านการผลิตแบตเตอรี่ให้มีศักยภาพ
รวมทั้งการติดตั้งสถานีชาร์ตแบตเตอรี่กระจายทุกพื้นที่ทั่วประเทศให้พร้อม จากนั้นรถยนต์ไฟฟ้าจึงจะได้รับความนิยม”นายนินนาท
กล่าว.-สำนักข่าวไทย