สกลนคร 2 ส.ค.-นายกฯลงพื้นที่ ตรวจน้ำท่วม จ.สกลนคร สั่งเร่งสำรวจความเสียหายเยียวยาให้เร็วที่สุดพร้อมให้ดูอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ เตรียมพร้อมรับมือน้ำและหน้าแล้ง ขอทุกคนสามัคคีอย่าขัดแย้ง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวระหว่างรับฟังบรรยายสรุปปัญหาและการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากนายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร และสถานการณ์น้ำจากอธิบดีกรมชลประทานที่ค่าย กฤษณ์สีวะรา ซึ่งขณะนี้สถานการณ์เข้าสู่ระยะของการฟื้นฟูสำรวจความเสียหายคาดว่าในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ จะเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะที่อ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นจะซ่อมแซมเสร็จในวันที่ 12 สิงหาคม และมีแนวทางที่จะปรับปรุงคันกั้นน้ำให้มีความสมบูรณ์แข็งแรงแรงกักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้นจาก 2.4 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 3 ล้านลูกบาศก์เมตร
นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างรับฟังบรรยายสรุปว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงห่วงใยประชาชนและติดตามสถานการณ์น้ำทางสื่อตลอด รัฐบาลน้อมนำกระแสรับสั่งของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ให้เร่งคลี่คลายสถานการณ์ให้ได้โดยเร็ว ทำให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างยั่งยืน การหาแหล่งกักเก็บน้ำ ปลูกหญ้าแฝกในพื้นที่เหมาะสม ขุดลอกทางระบายน้ำและน้อมนำแนวทางในหลวงรัชกาลที่ 9 มาใช้ ซึ่งรัฐบาลน้อมนำกระแสรับสั่งมาปฏิบัติ
พล.อ.ประยุทธ์ ยังสั่งการให้ช่วยเหลือเยียวยาประชาชนโดยเร็ว เร่งสำรวจพื้นที่ความเสียหายให้ชัดเจน นำประชาคมมามีส่วนร่วมเพื่อป้องกันปัญหาการใช้งบประมาณและการร้องเรียน และให้สำรวจอ่างเก็บน้ำที่มีอยู่ทั่วประเทศ ต้องบูรณะซ่อมแซมพร้อมใช้งาน และขุดลอกคูคลองไม่ให้ตื้นเขิน ซึ่งรัฐบาลจะอนุมัติงบประมาณลงไป ให้ดำเนินการ เพื่อให้แหล่งเก็บน้ำเหล่านี้สามารถใช้แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้งด้วย โดยให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปช่วยดูแล และจะให้ทหาร ไปช่วยลงมือทำเพื่อให้เร็วขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น ให้เร่งดำเนินการทำสันเขื่อนใหม่ เสริมจากเดิมและขอให้ปรับปรุงเพิ่มความจุน้ำให้มากขึ้น และให้สร้างความเข้าใจกับประชาชน เรื่องการสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะติดปัญหาจากประชาชน ซึ่งหากไม่ดำเนินการก็จะเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ดังนั้นต่อไปนี้ต้องร่วมมือกันอย่าสร้างความขัดแย้ง และขอให้หยุดเรื่องการเมืองไว้ก่อน เพราะตนไม่ได้มาจากการเมือง ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใครและจะทำงานในทุกพื้นที่ให้กับทุกคน ไม่มีการแบ่งแยก
จากนั้นคณะนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังครัวพระราชทานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และศูนย์พักพิงผู้ประสบภัย องค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ภายในอำเภอเมือง โดยได้มอบถุงยังชีพ และมอบเงินเยียวยาให้กับครอบครัว ที่เสียชีวิตรายละ 50,000 บาท พร้อมแสดงความห่วงใย เสียใจ กับทุกคน ให้ทุกคนเรียนรู้บทเรียนนี้จากภัยธรรมชาติ ครั้งนี้ด้วย มาวันนี้ตั้งใจมา ขอให้ทุกคนร่วมมือไม่มีความขัดแย้ง ทุกอย่างจะผ่านไปได้ หากมีกำลังใจที่ดี
ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์ เเละคณะเดินทางต่อไปยังเทศบาลสกลนคร ต.ธาตุเชิงชุม เพื่อร่วมโครงการ Big Cleaning Day ย้อมบ้านล้างเมือง และกล่าวทักทายให้กำลังใจประชาชน ก่อนที่จะร่วมฉีดน้ำและกวาดถนนในกิจกรรมด้วย และกล่าวว่า ดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของประชาชน หลังจากที่ได้ผ่านเหตุการณ์น้ำท่วม
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ลงเรือที่หนองหาร เพื่อเยี่ยมประชาชน บ้านธาตุดุมเหล่าทัพ พร้อมมอบถุงยังชีพ ให้กำลังใจประชาชน เพราะเส้นทางเข้าหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูง สัญจรไม่ได้ จนต้องลำเลียงการช่วยเหลือด้วยเรือเท่านั้น มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 150 คน 60 ครัวเรือน และติดตามดูระดับน้ำในหนองหาร ซึ่งมีเนื้อที่ 4 หมื่นไร่ ซึ่งเป็นจุดรับน้ำที่สำคัญของจังหวัดสกลนคร ซึ่งขณะนี้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นสองเท่า จากเดิม 266 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจะขออนุมัติในการจัดซื้อเครื่องสูบน้ำ 10 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำและรองรับปริมาณน้ำฝนระลอกใหม่ที่จะเข้ามา
จากนั้นเวลา 13.00 น. นายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมสะพานแบรี่ ที่เดิมถูกน้ำกัดเซาะ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น ต.พังขว้าง ตรวจเยี่ยมสภาพพื้นที่และการซ่อมแซ่ม แก้ไขปรับปรุงอ่างเก็บน้ำที่ชำรุดจากการถูกน้ำกัดเซาะ
ช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรี ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ บินตรวจเยี่ยมพื้นที่ประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิตร หรือประตูระบายน้ำก่ำ ที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หลังสิ้นเสร็จภารกิจ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ เวลาประมาณ 16.00 น. .-สำนักข่าวไทย