กรุงเทพฯ 12 ก.พ. – บ่ายวันนี้ตำรวจบก. ปปป. เรียกข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ 2 คนที่ “อัจฉริยะ” ระบุว่า เป็นผู้นำข้อมูลเกี่ยวกับโครงการกรมการข้าวและกรมฝนหลวงฯ มาเปิดเผย จนเป็นเหตุให้แก๊งตบทรัพย์รีดเงินอธิบดี ปัจจุบันคนหนึ่งเป็นระดับผู้อำนวยการสำนัก ส่วนอีกคนหนึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่า เคยเป็นข้าราชการหรือเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกมธ. ชุดใดกันแน่
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยได้รับรายงานว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (12 กุมภาพันธ์) พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้ให้ตำรวจบก. ปปป. นัดหมายบุคคล 2 คนคือ “นายโอ” และ “นาย ก” มาให้การในคดีตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว โดยทั้ง 2 คนเป็นผู้ที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์แจ้งต่อพล.ต.ต. จรูญเกียรติว่า เป็นข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่นำข้อมูลเกี่ยวกับโครงการของกรมการข้าวและกรมฝนหลวงและการบินเกษตรไปให้นายเอกลักษณ์ วารีชล หรือเอก ปากน้ำ ผู้ร่วมขบวนการรีดทรัพย์ของนายศรีสุวรรณ จรรยา
สำหรับ “นายโอ” เป็นข้าราชการกรมการข้าวในระดับผู้อำนวยการสำนักซึ่งเคยได้รับการสนับสนุนจากนักการเมืองในกระทรวงเกษตรฯ สนับสนุนให้ขึ้นสู่ตำแหน่งรองอธิบดี แต่ถูกผู้บริหารระดับสูงของกรมการข้าวสกัดกั้นไม่ให้เลื่อนตำแหน่ง
นอกจากนี้ “นายโอ” ยังถูกนายณัฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าวตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่มีกลุ่มเกษตรกรร้องเรียนเกี่ยวกับการดำเนินโครงการจัดซื้อเครื่องคัดทำความสะอาดเมล็ดพันธุ์ข้าวไม่มีประสิทธิภาพส่งถึงความไม่โปร่งใส โดยเครื่องจักรดังกล่าวจัดซื้อให้ศูนย์ข้าวชุมชนยืมใช้ภายใต้โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ในปีงบประมาณ 2563
อีกคนหนึ่งที่พนักงานสอบสวนเชิญให้เข้าข้อมูลคือ “นาย ก” ซึ่งนายอัจฉริยะระบุว่า เป็นผู้ปล่อยข้อมูลโครงการจัดซื้อเครื่องบินฝนหลวงนั้น ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่า เคยเป็นข้าราชการกรมใดในกระทรวงเกษตรฯ หรือไม่ แต่ปัจจุบันมีความเกี่ยวข้องกับคณะกรรมาธิการชุดหนึ่งในสภาผู้แทนราษฎร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรนั้น แม้กลุ่มของนายศรีสุวรรณจะร้องเรียนทั้งต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ รวมถึงเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนที่กระทรวงเกษตรฯ ถึง 2 ครั้ง แต่ไม่ประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดี
สำหรับนายณัฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ก่อนหน้านี้ได้ชี้แจงเกี่ยวกับโครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตร สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 15,255 ล้านบาทซึ่งเป็นโครงการที่กลุ่มของนายศรีสุวรรณนำมารีดทรัพย์ โดยอธิบดีกรมการข้าวระบุว่า ได้สั่งจ่ายเช็กให้แก่ธ.ก.ส. เพื่อจ่ายเงินเข้าบัญชีชาวนาตามมติครม. ที่ให้เปลี่ยนแปลงงบประมาณไปใช้ในโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 แล้ว จึงไม่ได้บริหารงบประมาณส่วนนี้เลย แต่กมธ. ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณยังต้องการให้ชี้แจงถึงโครงการจัดจ้างออร์กาไนเซอร์ให้จัดกิจกรรมวันข้าวและชาวนาแห่งชาติ ในชื่อ “งานรณรงค์ถ่ายทอดเทคโนโลยีลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเนื่องในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติประจำปี 2566” ซึ่งจัดกิจกรรม 3 แห่งคือ ที่กรมการข้าว จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดนครราชสีมา
การจัดงานดังกล่าว ใช้งบประมาณ 8 ล้านบาท เป็นการจัดงานที่กรมการข้าว 5 ล้านบาท จัดที่จังหวัดพิษณุโลก 1.5 ล้านบาท และจัดที่จังหวัดนครราชสีมา 1.5 ล้านบาท โดยสส. พรรคก้าวไกลตั้งข้อสังเกตถึงความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพในการใช้งบประมาณ ล่าสุดอธิบดีกรมการข้าว ตอบรับจะเข้าชี้แจงต่อกมธ. ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้แล้ว
ล่าสุดมีรายงานว่า เครือข่ายธรรมาภิบาลไทยจะติดตามเรื่องที่เคยร้องทุกข์กล่าวโทษต่อบก. ปปป. ให้ดำเนินคดีผู้บริหารระดับสูงของกรมการข้าว ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการทำหน้าที่โดยมิชอบเกี่ยวกับการสั่งให้นำรถยนต์ของราชการไปใช้ในภารกิจอื่น ที่ไม่ใช่งานของทางราชการ เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2565 โดยเครือข่ายธรรมาภิบาลเคยแจ้งความประเด็นนี้มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2565.- สำนักข่าวไทย
