กรุงเทพฯ 31 ม.ค. – แบงก์ชาติอาจปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 66 ลงจากที่เคยคาดไว้เดิม 2.4% ส่วนปี 67 มีอีกหลายความเสี่ยง
น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ธปท.อาจจะมีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 66 ลงจากที่เคยคาดไว้เดิม 2.4% แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะปรับลดลงไปต่ำกว่า 2% หรือไม่ เพราะต้องรอการการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะมีการประชุมนัดแรกของปีนี้ในวันที่ 7 ก.พ.67 รวมทั้งการพิจารณากำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายด้วย สำหรับแนวโน้มเดือน ม.ค.67 กิจกรรมทางเศรษฐกิจคาดว่ายังได้รับแรงส่งจากการบริโภคและภาคการท่องเที่ยว แต่ยังต้องติดตามการฟื้นตัวของการส่งออกสินค้า ส่วนระยะต่อไปต้องติดตาม การฟื้นตัวของการค้าโลก ผลกระทบจากความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ และนโยบบายของภาครัฐ
ธปท.แถลง เศรษฐกิจและการเงินเดือน ธ.ค.66 และไตรมาส 4/66 พบว่าเศรษฐกิจไทยโดยรวมขยายตัวชะลอลง ตามรายรับภาคการท่องเที่ยวและมูลค่าการส่งออกไม่รวมทองคำที่ชะลอลงจากอุปสงค์โลกที่ฟื้นตัวช้า และส่วนหนึ่งจากปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ฉุดรั้งการฟื้นตัวของภาคการส่งออก การผลิตภาคอุตสาหกรรม และภาคการท่องเที่ยว อาทิ การที่เศรษฐกิจจีนพึ่งพาตนเองมากขึ้น ส่งผลให้เครื่องชี้การผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนภาคเอกชนอยู่ในทิศทางชะลอลงด้วย ด้านการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจากรายจ่ายลงทุนของทั้งรัฐบาลกลางและรัฐวิสาหกิจ อย่างไรก็ดี เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนและภาคบริการยังขยายตัวต่อเนื่องและเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย
ในขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง ตามมาตรการลดราคาน้ำมันเบนซินของภาครัฐและราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ประกอบกับราคาหมวดอาหารสดลดลงตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังทรงตัว ด้านตลาดแรงงานฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน แต่เริ่มเห็นสัญญาณการจ้างงานในภาคการผลิตชะลอลง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลงจากไตรมาสก่อน ตามดุลการค้าที่เกินดุลลดลงเป็นสำคัญ ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 24 ม.ค. สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) แถลงปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 66 ลงเหลือโต 1.8% และวันที่ 19 ก.พ.นี้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) จะแถลงภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/66 และสรุปภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 66 ซึ่งล่าสุดคาดว่าจะเติบโตได้ 2.5%. -511-สำนักข่าวไทย