กรุงเทพ 24 ม.ค.- ตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปี 2566 ยังเติบโตต่อเนื่อง คาดว่าในปี 2567 ยังเติบโตไม่มีการหดตัว
นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียล เอสเตท แอฟแฟร์ส เปิดเผยในงานสัมมนาทิศทางตลาดที่อยู่อาศัย ปี 2567 ว่า จากการสำรวจภาคสนามจนถึงสิ้นปี 2566 ตลาดที่อยู่อาศัยไทยยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 มีหน่วยขายเปิดใหม่ 101,536 หน่วยซึ่งถึงแม้จะน้อยกว่าปี 2565 (จำนวน 107,090 หน่วย) ประมาณ 5.2% แต่ก็เป็นการลดลงอย่างไม่มีนัยสำคัญใดๆเพราะจำนวนที่ลดลงก็เพราะแทบจะไม่มีการเปิดตัวโครงการอาคารชุดราคาถูกที่มีราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาทเลย
ทั้งนี้ หากพิจารณาจากมูลค่าการเปิดตัวในปี 2566 ที่สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 559,743 ล้านบาทน้อยกว่าปี 2561 ที่เปิดตัวสูงสุดถึง 565,811 ล้านบาทแล้ว นับว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยโดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์แล้ว โดยคาดว่า ปี 2567 ตลาดจะเติบโตมากกว่านี้ โดยจะเห็นได้ว่าการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจและสังคมของไทยจะเติบโตอยู่ที่ 3-4 % ซึ่งแม้จะไม่สูงมากนักแต่ก็นับว่าเป็นการขยายตัวที่ดีพอสมควร
สำหรับราคาเฉลี่ยของที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่เปิดใหม่ในปี 2566 ทั้งปีอยู่ที่ 5.513 ล้านบาทซึ่งต่างจากปี 2565 ที่เปิดตัวในราคาเฉลี่ย 4.412 ล้านบาท ชี้ให้เห็นว่าราคาเฉลี่ยของหน่วยขายที่เปิดใหม่เพิ่มขึ้น 25%
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเพิ่มยอดซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ อยากให้รัฐบาลกระตุ้นให้สถาบันการเงินลดดอกเบี้ยเงินกู้ เพราะถ้าลดดอกเบี้ยเงินกู้ได้เพียง 1% จะส่งผลให้เงินผ่อนชำระลดลงถึงประมาณ 8% ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง.-513-สำนักข่าวไทย