fbpx

พบร่างเน็ตไอดอลสาว ถูกยิงดับคาคอนโดฯ

กทม. 22 ม.ค.- ผกก.สน.ห้วยขวาง แจงปม “น้องหวานเจี๊ยบ” เน็ตไอดอลสาว ดับปริศนาในคอนโดฯ ย่านห้วยขวาง ให้น้ำหนัก แฟนหนุ่มลงมือก่อเหตุ ก่อนไปยิงตัวเองตายที่ห้องพักย่านสนามบินน้ำ


เวลา 17.00 น. พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า ความคืบหน้ากรณีพบศพ น.ส.ธมลวรรณ หรือ น้องหวานเจี๊ยบ อายุ 23 ปี เน็ตไอดอลสาว ว่า หลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตรวจสอบกล้องวงจรปิด สอบสวนพยาน แต่ยังเหลือในส่วนของแฟนผู้เสียชีวิตที่ยังติดตามตัวมาไม่ได้ แต่มีภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าแฟนผู้ก่อเหตุออกจากห้องพักในเวลา 06.00 น. วันที่ 21 มกราคม จากนั้นจึงให้ฝ่ายสืบสวนหาข้อมูลจนทราบว่าผู้ก่อเหตุมีที่พักอาศัยอยู่ที่คอนโดฯ ย่านสนามบินน้ำ จึงได้นำกำลังเข้าติดตามตัว เมื่อถึงห้องพักเจ้าหน้าที่ได้เรียกอยู่ประมาณ 3 ครั้ง แต่ก็ไม่มีการเปิด จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด จึงได้ประสานขอกำลังสนับสนุนจากตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ เมื่อเข้าไปในห้องก็พบว่านายติณห์ นอนหายใจรวยริน มีปืนขนาด .38 ตกอยู่ข้างตัว เจ้าหน้าที่จึงได้พยายามปฐมพยาบาลเพื่อช่วยชีวิต แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุคาดว่า น่าจะเกิดจากปัญหาส่วนตัว เรื่องหึงหวง และอีกหลายๆ เรื่อง ทำให้ตัดสินใจก่อเหตุ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นคราบเขม่าดินปืนที่ร่างของผู้ตาย และมีปืนขนาด 9 มม.อยู่ที่มือขวา แต่เชื่อมั่นว่าผู้ก่อเหตุคือนายติณห์ เป็นการทำให้เห็นว่าฆ่าตัวตาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คงต้องรอหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบเพื่อให้สิ้นข้อสงสัย


ในส่วนของแม่ผู้ตายที่ได้มีการไปร้องกับเพจสายไหมต้องรอด ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการพูดคุยกับแม่แล้วเมื่อช่วงเช้า โดยได้แจ้งความคืบหน้า และได้ให้คำแนะนำ ซึ่งทางแม่ก็มีความเข้าใจ แต่เท่าที่ทราบการไปที่เพจสายไหมเกิดจากความไม่สบายใจของกลุ่มเพื่อนผู้ตาย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสื่อสารเฉพาะกับครอบครัวของผู้ตายโดยตรง

ส่วนคดีค้างเก่าของนายติณห์ คือ คดีร่วมกันทำร้ายร่างกาย ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่นอกราชอาณาจักร จึงต้องส่งเรื่องให้ทางอัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณา โดยทางอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งลงมาให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป ซึ่งอยู่ระหว่างการเรียกตัวนายติณห์ มารับทราบข้อกล่าวหา แต่มาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเสียก่อน .413.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย