นายกฯ กลับถึงไทย ย้ำ ภารกิจที่สมาพันธรัฐสวิส ได้ประโยชน์

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 19 ม.ค.-นายกฯ กลับถึงไทย อารมณ์ดี บอกเป็นหวัดนิดหน่อย ย้ำ ภารกิจที่สมาพันธรัฐสวิส ได้ประโยชน์ พบมหาเศรษฐีอินเดียพร้อมต่อจิ๊กซอว์แลนด์บริดจ์ ชี้หลายฝ่ายเตือนสติรัฐบาล เป็นเรื่องธรรมดา ยืนยันเดินหน้าต่อ 


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เดินทางกลับถึงประเทศไทยภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ เข้าร่วมประชุม World Economic Forum 2024 ที่เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า 3 วันที่ผ่านมา ได้พบ นักลงทุน ผู้นำต่างประเทศ ในทุกมิติ โดยกระทรวงการต่างประเทศ ได้พูดคุยกับประธานสภาอียู ถึงความร่วมมือเอฟทีเอ  ยกระดับพาสปอร์ตไทย และพบกับ ประธานาธิบดีสุภาพสตรีของสมาพันธรัฐสวิส  ถึงเรื่องการค้าขาย เข้าใจว่าประเทศไทยเป็นคู่ค้าที่สำคัญที่สุดของเขา

รวมถึงการพูดคุยกับไมโครซอฟ และกูเกิ้ล ที่ทำเรื่องดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งทางกูเกิ้ล ก็ย้ำว่าจะมาให้ลงทุนในไทย  ซึ่งการร่วมประชุม ตลอด 3 วัน ยอมรับว่า วันแรกหนักอยู่ แต่ได้ประโยชน์ เพราะทุกคนที่มา มุ่งมั่นที่จะพบปะกัน เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้เจอกับ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ซึ่งไม่ได้นัดไว้ แต่ใกล้อาหารเที่ยง ตนจึงได้ส่งแมสเสจไปว่าขอพบ ได้พูดคุยกัน 15 นาที ซึ่งตอกย้ำเรื่อง PM 2.5 ที่ได้สั่งการไปทุกหน่วยงานของทั้งสองประเทศแล้ว และย้ำความร่วมมือเกี่ยวกับวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่นายกฯกัมพูชาจะมาเยือนไทยด้วย


ส่วนโครงการแลนด์บริดจ์ ที่เห็นทางกลุ่มทุนดูไบสนใจนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เขาสนใจเพราะบริหารท่าเรือแหลมฉบังอยู่แล้ว และตนได้พบเจอกับซีอีโอด้วย  ซึ่งมีความมุ่งมั่น โดยดูจากสายตาและการพูดคุย รวมถึงเป็นผู้ที่กษัตริย์ของยูเออี ให้ความไว้วางใจสูงมาก พร้อมจะเชื้อเชิญมาพูดคุยในเดือนหน้า และไปดูสถานที่โดยกระทรวงคมนาคมจะเป็นเจ้าภาพ

“และได้พบกับ มิสเตอร์ GAUTAM ADANI ที่เป็นมหาเศรษฐี อันดับต้นๆ ของโลก และบริหารหลายสนามบิน ในอินเดีย โดยเฉพาะเมืองรอง  ถือว่าโชคดีที่ได้เจอ เพราะเมืองรองของเขา ก็อยากเข้ามาไทยมากขึ้น ซึ่งตนก็ได้ตอกย้ำอยากให้คนของเขา เดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งนาย   GAUTAM ADANI  ก็ตอบรับจะไปพูดคุยให้ รวมถึงสนใจในโครงการแลนด์บริดจ์ เพราะเขาได้ทำโลจิสติกส์ในอินเดีย จะเป็นการช่วยต่อจิ๊กซอว์ให้เป็นภาพได้” นายเศรษฐา กล่าว

เมื่อถามย้ำว่ารัฐบาลจะเดินหน้าโครงการแลนด์บริดจ์ต่อไป แม้ฝ่ายค้าน และหลายฝ่ายจะค้านว่าไม่คุ้มทุนนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การจะทำอะไรก็ต้องมีคนที่ไม่เห็นด้วยหรือให้ข้อคิด และเตือนสติกับรัฐบาล ว่าเราจะต้องระมัดระวังในเรื่องพวกนี้ ถือเป็นเรื่องธรรมดา พร้อมยืนยันที่จะเดินหน้าต่อ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับถึงประเทศไทย อย่างอารมณ์ดี โดยหยอกล้อกับสื่อมวลชนด้วยการแกล้งเดินเลยไมค์ ก่อนเดินกลับมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ทั้งนี้ภายหลังสัมภาษณ์เสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรี เผยว่า วันที่จะเดินทางไปเยี่ยมมารดา ที่ป่วยอยู่โรงพยาบาล ก่อนที่จะเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวถามว่า เหมือนนายกฯ ไม่สบาย เสียงหาย นายเศรษฐา ระบุว่า เป็นหวัดนิดหน่อย.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง