สธ.เผยโรงงานพลุระเบิด พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลได้ 20 ร่าง

กทม. 18 ม.ค.-รมว.สาธารณสุข เผยเหตุโรงงานพลุระเบิด “สุพรรณบุรี” ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิต 23 ราย พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลได้ 20 ร่าง ดูแลเยียวยาจิตใจญาติสายตรงแล้ว 24 ราย พบเสี่ยงปัญหาด้านสุขภาพจิต 4 ราย

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีเกิดเหตุโรงงานพลุระเบิด ที่ตำบลศาลาขาว อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับรายงานข้อมูลเพิ่มเติมจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี ว่า จากการยืนยันโดยญาติที่ทำงานที่โรงงาน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าวทั้งสิ้น 23 ราย เป็นชาย 7 ราย หญิง 16 ราย ในจำนวนนี้พบร่างที่สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลได้ 20 ร่าง อยู่ระหว่างทีมนิติเวชของโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช ดำเนินการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล


สำหรับการดูแลเยียวยาจิตใจของครอบครัวผู้เสียชีวิต ได้ส่งทีม MCATT จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช และโรงพยาบาลในเครือข่าย เข้าประเมินอาการและให้การดูแลเยียวยาจิตใจแล้ว โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม A ญาติสายตรงของผู้เสียชีวิต ได้รับการปฐมพยาบาลทางจิตใจและประเมินสุขภาพจิต จำนวน 24 ราย พบมีอาการโศกเศร้ามาก เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาด้านสุขภาพจิต 4 ราย ซึ่งทั้ง 4 รายได้รับการขึ้นทะเบียนเพื่อติดตามดูแลต่อเนื่องแล้ว กลุ่ม B ญาติพี่น้องอื่นๆ จำนวน 12 คน ได้รับการปฐมพยาบาลทางจิตใจและคำแนะนำในการดูแลสุขภาพจิตตนเองและคนรอบข้าง พร้อมช่องทางการขอความช่วยเหลือ และกลุ่ม C คนในชุมชน จำนวน 9 คน ได้ให้คำแนะนำเรื่องการดูแลและให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต เพื่อให้ปรับตัว ปรับใจ และดำเนินชีวิตต่อไปได้

“แผนปฏิบัติการของทีม MCATT ในวันที่ 18 มกราคม 2567 จะจัดทีม MCATT รวม 12 คน ให้การดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ครอบครัวที่มีความเสี่ยงเกิดปัญหาด้านสุขภาพจิต และมีการประเมินสุขภาพจิตผู้ได้รับผลกระทบในแต่ละกลุ่มเพิ่มเติม หากมีความเสี่ยงจะประสานดูแลส่งต่อช่องทางด่วนกลุ่มงานจิตเวช โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช นอกจากนี้ ได้ประสานทีม MCATT ทุกอำเภอ จำนวน 15 คน พร้อมทีมสนับสนุนจากกรมสุขภาพจิตและสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ 6 คน รวม 21 คน ลงพื้นที่วัดโรงช้าง ตำบลสวนแตง เพื่อดูแลญาติอย่างใกล้ชิดช่วงที่มีการนำร่างผู้เสียชีวิตเข้ามา คาดว่าผู้ได้รับผลกระทบกลุ่ม A ญาติสายตรง น่าจะมีประมาณ 138 คน หรือประมาณ 6 คน ต่อผู้เสียชีวิต 1 ราย และได้มีการเตรียมทีม MCATT เสริมในช่วงงานสวดพระอภิธรรมด้วย” นพ.ชลน่าน กล่าว 


สำหรับแนวทางการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม จะมีการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ เสียง กลิ่น และควัน พร้อมทั้งเฝ้าระวังการปนเปื้อนสารเคมีอันตรายในอาหารและน้ำ ในรัศมี 40,000 ตารางเมตร, เฝ้าระวังอาการแพ้พิษหรือสารเคมีในระบบทางเดินหายใจและผิวหนัง, เฝ้าระวังสุขภาพของกลุ่มเปราะบางบริเวณโดยรอบ ส่วนการจัดการศพผู้เสียชีวิตที่มีการปนเปื้อนของสารเคมีอันตราย ทางศูนย์อนามัยที่ 5 จะเป็นหน่วยรับปฏิบัติ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ.-411.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”