แนะรัฐบาลเห็นความสำคัญสภาฯ ดีกว่าปชช.ลงถนน

รัฐสภา 16 ม.ค.-“ดิเรกฤทธิ์” คาดยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปรัฐบาล 22 ม.ค. ไม่ห่วงสว.ถอนชื่อ เชื่อมีแต่เพิ่มขึ้น หวังนายกฯ ให้ความสำคัญเวทีสภาฯ ดีกว่าประชาชนไม่เข้าใจแล้วลงถนน


นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม สว.และกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน ของวุฒิสภา เปิดเผยว่า ล่าสุดรวบรวมรายชื่อสว.เพื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ครบตามจำนวนที่กฎหมายกำหนดแล้ว คาดว่าจะยื่นญัตติต่อประธานวุฒิสภาในวันจันทร์ที่ 22 มกราคมนี้    เพื่อแจ้งเรื่องไปยังรัฐบาล ว่าวุฒิสภาจะใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153

“ขณะนี้รวบรวมเสียงสว.เข้าชื่อเกินกว่า 90 คนแล้ว และจะหารือกับรัฐบาลว่าจะให้กรอบการอภิปรายของวุฒิสภาในช่วงไหน ให้เวลากี่วัน จากนั้นวุฒิสภาจะหารือในวิปวุฒิสภา บริหารจัดการเรื่องการอภิปราย โดยกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองจะทำหนังสือถึงประธานกรรมาธิการอีก 26 คณะ สอบถามในประเด็นข้อสงสัยที่รับฟังปัญหาจากประชาชนถึงความเดือดร้อนจากนโยบายรัฐบาล ภายใต้ 7 ประเด็นในการอภิปราย” นายดิเรกฤทธิ์ กล่าว


นายดิเรกฤทธิ์ กล่าวว่า ภายในหนึ่งสัปดาห์จะทอดเวลาให้ประธานกรรมาธิการแต่ละคณะเสนอความเห็นเพิ่มเติม เพื่อจะทำให้การอภิปรายเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลเป็นการอภิปรายที่มีประเด็นชัดเจน คลายข้อสงสัยของผู้เกี่ยวข้อง ให้รัฐบาลเป็นผู้ชี้แจงต่อวุฒิสภา รับคำแนะนำและคำเสนอแนะ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน เบื้องต้นจากการประสานผู้เกี่ยวข้องในรัฐบาลมีการตอบรับที่ดี ชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่ทำให้ระบบรัฐสภาเป็นที่เชื่อถือ สร้างระบบรัฐสภาในระบบประชาธิปไตยให้เกิดขึ้น  ถ้านายกรัฐมนตรีตอบรับ มีความรับผิดชอบต่อรัฐสภา ใช้เวทีนี้อธิบายต่อประชาชนจะเป็นประโยชน์มาก เมื่อตั้งคำถามรัฐบาลแล้ว รัฐบาลสามารถใช้เวลาได้เต็มที่ เพื่อให้ประชาชนคลายข้อสงสัย ตรงนี้เป็นเวทีสำคัญ

“ดีกว่าปล่อยให้คนที่ไม่เข้าใจรัฐบาล ไปกล่าวหาหรือต่อว่า หรือใช้ความคิดเห็นนอกระบบรัฐสภา ซึ่งบางเรื่องหากประชาชนไม่เข้าใจอาจจะไปลงท้องถนนได้    ยืนยันการทำหน้าที่ของวุฒิสภาครั้งนี้เป็นกระบวนการหนึ่งของระบบรัฐสภา ที่รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบต่อรัฐสภาที่เป็นตัวแทนของประชาชน ผมไม่กังวลว่าสว.จะถอนชื่อ เพราะทุกคนเป็นผู้ใหญ่และก่อนการลงชื่อก็พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว ขณะเดียวกันกรรมาธิการก็ชี้แจงเนื้อหาการอภิปราย 7 ประเด็นให้พิจารณาแล้ว หากลงชื่อแล้วถอนชื่อก็จะต้องอธิบายต่อสังคม ผมเห็นว่ามีแต่จะเพิ่มขึ้น ไม่มีลดลง และวันนี้ยังคงให้สว.ลงชื่ออยู่” นายดิเรกฤทธิ์ กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย       


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง