ประจวบคีรีขันธ์ 28 ธ.ค. – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานรถไฟที่สถานีหัวหิน มอบนโยบายอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567
วันที่ 28 ธ.ค.66 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่เพื่อรับฟังรายงานภาพรวมการเดินทางของผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถไฟ พร้อมทั้งมอบนโยบายและตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานในการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ณ สถานีหัวหิน โดยมีนายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารการรถไฟฯ ให้การต้อนรับ
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจภาพรวมการเดินทาง เนื่องจากมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้เริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา ท่องเที่ยว ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2567 ที่คาดการณ์ว่าจะมีการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล รวมถึงบริการขนส่งสาธารณะจำนวนมาก จึงมอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยเน้นย้ำการป้องกันและลดอุบัติเหตุ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก และที่สำคัญคือความปลอดภัยขั้นสูงสุด
ในโอกาสนี้ ได้เดินทางไปตรวจความเรียบร้อย และให้โอวาทแก่พนักงานการรถไฟฯ ที่สถานีหัวหินแห่งใหม่ ซึ่งได้เปิดบริการไปแล้วเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา พบว่าผู้โดยสารได้รับความสะดวก และความพึงพอใจต่อการใช้บริการเพิ่มขึ้น รวมถึงการเปิดให้บริการรถไฟทางคู่สายใต้ในช่วงแรก ระหว่างสถานีบ้านคูบัว จังหวัดราชบุรี ถึงสถานีสะพลี จังหวัดชุมพร ระยะทาง 348 กิโลเมตร สามารถรองรับการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ร่วมกิจกรรม “รถไฟส่งความสุขแก่ผู้ใช้บริการในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567” โดยมอบกระเป๋าส่งความสุขที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลให้แก่ผู้โดยสารที่เดินทางที่สถานีหัวหิน เพื่อแสดงความขอบคุณและส่งต่อความห่วงใยให้กับผู้ใช้บริการตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ดูแลการให้บริการแก่ผู้โดยสารและประชาชนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการภายในสถานีรถไฟหัวหิน ให้ได้รับความสะดวกสูงสุด
ในส่วนของสถานีหัวหินเดิม ขอให้การรถไฟฯ ช่วยกันอนุรักษณ์ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดต่อไป ซึ่งมีความมั่นใจว่า โครงการพัฒนารถไฟทางคู่สายใต้ มีส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย และพลิกโฉมการคมนาคมขนส่งระบบรางของประเทศให้กลายเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมของภูมิภาคอาเซียนได้ในอนาคตอันใกล้.-513-สำนักข่าวไทย