ทำเนียบรัฐบาล 12 ธ.ค.-“วราวุธ” เห็นด้วยชงร่าง กม.นิรโทษกรรม ในนามพรรคร่วมรัฐบาล หากเนื้อหาทิศทางเดียวกัน ไม่ติดถ้าจะเปลี่ยนชื่อจาก “นิรโทษ” เป็น “ปรองดอง” ชี้หัวใจสำคัญ คือ การให้ผู้ที่หลงผิดได้รับความยุติธรรมและให้อภัยกัน
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา เสนอผลักดัน ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมในนามพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อความสมานฉันท์ ว่า เท่าที่พูดคุยมามีหลายจุดที่ทิศทางคล้ายคลึงกัน โดยเฉพาะมาตรา 112 ที่แยกออกมา ไม่ได้อยู่ในร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ฉะนั้น สิ่งที่นายนิกรให้ทางรัฐบาล เสนอในนามของพรรคร่วมรัฐบาลจะแสดงให้เห็นความเหนียวแน่นและความเป็นทีมเวิร์คของพรรคร่วมรัฐบาล
ส่วนกรณีที่บางฝ่ายไม่อยากให้ใช้ชื่อกฎหมายนิรโทษกรรม และอยากให้เปลี่ยนเป็นปรองดองสมานฉันท์ นายวราวุธ กล่าวว่า จะเปลี่ยนไปเป็นชื่ออื่นเลยก็ได้ แต่ส่วนตัวมองว่า คำว่าปรองดอง คำว่านิรโทษ โดนใช้ไปจนอาจสื่อความหมายที่คาดเคลื่อนได้ ดังนั้นหัวใจสำคัญของร่างพ.ร.บ.คือทำให้ผู้ที่หลงผิดได้รับความยุติธรรมและให้อภัยกัน
นายวราวุธ ยังกล่าวลงพื้นที่สำรวจหนี้ข้าราชการภายในกระทรวงพม. โดยได้เริ่มสำรวจทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ไปแล้ว จำนวน 3,300 คน คิดเป็นร้อยละ 30 ของข้าราชการทั้งหมด 11,000 คน พบว่า กว่าร้อยละ 90 เป็นหนี้สินเชื่อบ้าน รถยนต์ และบัตรเครดิต อย่างละเท่าๆ กัน ประมาณร้อยละ 33.33 ซึ่งมีหนี้มูลค่าไม่เกินคนละ 1 ล้านบาท โดยไม่รู้จะสร้างหนี้เพิ่มหรือจะเคลียร์หนี้อย่างไร เนื่องปัญหาที่สำคัญคือเงินเดือนไม่เพียงพอต่อการจ่ายหนี้ “ขณะนี้ปริมาณหนี้ที่มีคาดว่าประมาณ 3 พันล้านบาท โดยมีค่าเฉลี่ยหนี้ประมาณคนละ 960,000 บาท ดังนั้น เมื่อพม.ได้ข้อมูลภาพรวมมากกว่านี้แล้ว จะเดินหน้าเจรจากับสถาบันการเงินในการปรับโครงสร้างหนี้ ทั้งลดเงินต้นและลดอัตราดอกเบี้ย โดยคาดว่าการสำรวจหนี้จะได้ข้อมูลครบถ้วนหลังปีใหม่” นายวราวุธ กล่าว .-สำนักข่าวไทย