กรุงเทพฯ 5 ธ.ค. – สบส. รุดตรวจคลินิกแพทย์แผนจีนย่านบางเขน หลังได้รับร้องเรียนเกิดไฟคลอกผู้รับบริการจากการ “เผายาหน้าท้อง” เบื้องต้นไม่พบตัวแพทย์ผู้ดำเนินการสถานพยาบาล จึงตั้งข้อหาการกระทำผิด 2 ข้อหา พร้อมมีคำสั่งให้ปรับปรุงให้ถูกต้อง มิฉะนั้นจะออกคำสั่งปิดชั่วคราว
นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้รับเรื่องร้องเรียนจาก กัน จอมพลัง กรณีหญิงสาวรายหนึ่งเข้ารับบริการ “เผายาหน้าท้อง” กับคลินิกแห่งหนึ่งย่านบางเขน แต่เกิดอุบัติเหตุแอลกอฮอลล์ที่ใช้ในการเผาสมุนไพรไหลโดนบริเวณอื่นของร่างกาย เมื่อมีการจุดไฟเผาสมุนไพรจึงทำให้เกิดไฟคลอกตัวผู้รับบริการ ตนจึงสั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่กองกฎหมาย กองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ เข้าร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลบางเขน และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง ณ คลินิกดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในศูนย์การค้าย่านบางเขน กรุงเทพมหานคร
จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่าคลินิกดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการในลักษณะสหคลินิกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ให้บริการการแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนจีน อาทิ นวดประคบสมุนไพร ฝังเข็ม ครอบแก้ว กัวซา ฯลฯ โดยการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่พบแพทย์ผู้ดำเนินการสถานพยาบาล แต่พบแพทย์ผู้ให้บริการ และเจ้าหน้าที่ประจำคลินิก พนักงานเจ้าหน้าที่จึงสอบถ้อยคำในเบื้องต้น พร้อมตรวจสอบเวชระเบียน เอกสารประวัติการรักษา และการโฆษณาของคลินิกในสื่อโซเชียล พร้อมให้แพทย์ผู้ให้บริการสาธิตกระบวนการ “เผายาหน้าท้อง” แก่พนักงานเจ้าหน้าที่
เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่จัดเก็บข้อมูลเสร็จสิ้นแล้วจึงแจ้งข้อหาการกระทำผิดในเบื้องต้นตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ต่อคลินิก ได้แก่ 1.ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยมิได้จัดให้มีผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.โฆษณาโดยมิได้ขออนุมัติ ข้อความ เสียง หรือภาพที่ใช้ในการโฆษณาหรือประกาศจากผู้อนุญาต ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท นับแต่วันที่ฝ่าฝืนคำสั่งที่ให้ระงับการโฆษณาหรือประกาศ และมีคำสั่งทางปกครองให้ผู้ประกอบกิจการ และผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ปรับปรุงมาตรฐานสถานพยาบาลให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด ภายในระยะเวลา 15 วัน มิฉะนั้นจะมีคำสั่งให้ปิดสถานพยาบาลเป็นการชั่วคราว ส่วนมาตรฐานการให้บริการของแพทย์ทางกรม สบส. จะส่งเรื่องให้สภาวิชาชีพตรวจสอบความถูกต้อง พร้อมจะมีการเรียกตัวผู้ประกอบกิจการ และผู้ดำเนินการสถานพยาบาล มาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมกับกรม สบส. ต่อไป.-411-สำนักข่าวไทย