กรุงเทพฯ 19 ก.ค.- ศาลเริ่มอ่านคำพิพากษาจำเลย 103 คนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา หลังอัยการทยอยสั่งฟ้องตั้งแต่ปี 2558
ศาลชั้นต้นอยู่ระหว่างอ่านคำพิพากษาคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา ซึ่งวันนี้เบิกตัวจำเลยมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และทัณฑสถานหญิงกลางมายังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก คดีที่อัยการยื่นฟ้องนายบรรจง ปองผล หรือโกจง อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์ เป็นจำเลยที่ 1 / นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล จำเลยที่ 29 / พลโทมนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก จำเลยที่ 54 ตำรวจ 4 นาย กับพวกรวม 103 คน ในความผิด 16 ข้อหา ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ฯ พ.ศ.2551 , พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ฯ พ.ศ.2546 ภายหลังโอนคดีจากศาลนาทวี มาพิจารณาคดีที่แผนกคดีค้ามนุษย์ของศาลอาญา
ทั้งนี้ศาลได้จำหน่ายคดีของนายสุริยา อาฮะหมัด หรือ โกชัย จำเลยที่ 26 ออกจากสารบท หลังจำเลยเสียชีวิตคงเหลือจำเลยทั้งหมด 102 คน
ขณะที่ศาลได้จัดถ่ายทอดภาพและเสียงภาพผ่านทีวีบริเวณห้องโถงให้ญาติและสื่อมวลชนรับฟัง เนื่องจากห้องพิจารณาคดีมีจำเลยจำนวนมากและเพื่อรักษาความปลอดภัยซึ่งการอ่านคำพิพากษาครั้งนี้มีคำพิพากษาเกือบ 500 หน้า ใช้ผู้พิพากษาอ่านถึง 7 คน คาดจะแล้วเสร็จในช่วงเย็นวันนี้
สำหรับคดีนี้ ศาลมีการสืบพยานรวม 116 นัด ต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2559 มีการสืบพยานทั้งหมด 209 ปาก ซึ่งโจทก์ สืบพยาน 98 ปาก จำเลย 111 ปาก และพยานเอกสาร
คดีนี้สืบเนื่องจากการกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา อย่างหนัก เมื่อปี 2558 หลังเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2558 ตำรวจทหารและฝ่ายปกครองสนธิกำลังเข้าค้นพื้นที่เทือกเขาแก้ว หมู่ 8 บ้านตะโละ ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พบค่ายกักกันชาวโรฮิงญาจำนวนหลายสิบหลัง มีชายชาวโรฮิงญาป่วยหนัก 1 ราย และพบหลุมฝังศพรอบค่ายกักกัน 32 หลุม ซึ่งศพส่วนใหญ่ป่วยและอดอาหารจนเสียชีวิต บางศพมีร่องรอยถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ซึ่งการตรวจค้นครั้งนี้หลังขยายผลคดีที่ตำรวจ สภ.หัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช จับชาวโรฮิงญาที่ถูกขบวนการค้ามนุษย์ซุกซ่อนมากับรถกระบะขณะเตรียมส่งไปประเทศมาเลเซีย รวมถึงมีขบวนการนำพาคนได้ติดต่อเรียกค่าไถ่กับญาติ จำนวนตั้งแต่หลักหมื่นถึงแสนบาท.-สำนักข่าวไทย