กรุงเทพฯ 4 ธ.ค. – โฆษกรัฐบาล เผยรัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขานรับแนวทางการริเริ่มของนายกฯ เปิดการเจรจากับเอกชนซาอุฯ เพื่อเพิ่มโอกาส เพิ่มตลาด เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรไทยอยู่ดีกินดี
วันนี้ (4 ธ.ค.66) นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการเดินทางร่วมการประชุมสุดยอด ASEAN-GCC Summit ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 20-21 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นโอกาสให้นายกรัฐมนตรีได้หารือเพื่อโอกาสเพิ่มความร่วมมือระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งรวมถึง Saudi Agricultural and Livestock Investment Company (SALIC) เอกชนซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับด้านการเกษตรและปศุสัตว์ชั้นนำของโลก และทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะมีความร่วมมือกันเพื่อการค้าทางด้านปศุสัตว์ที่เป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการของรัฐบาล เพื่อเป็นการติดตามผลการหารือของนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2566 นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ได้มอบหมายให้นายสัตวแพทย์ประภาส ภิญโญชีพ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ร่วมประชุมกับนายดามพ์ บุญธรรม เอกอัครราชทูต นางนวลละออง ศรีชุมพล นายกสมาคมผู้ส่งออกและนำเข้าปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์จากปศุสัตว์ไทย และนายอภิชาติ ประเสริฐสุด ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเจดดาห์ โดยเข้าพบหารือกับ Eng. Sulaiman AlRumaih – Group CEO บริษัท SALIC และคณะผู้บริหารของบริษัท SALIC พร้อมด้วยนาย Norberto Giangrande ประธานบริษัท MINERVA และนาย Fernando Queiroz – CEO บริษัท MINERVA ณ บริษัท SALIC
โดยจากการพบหารือครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะสนับสนุนความร่วมมือในการลงทุนด้านปศุสัตว์ระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบีย รวมทั้งความร่วมมือในด้านการเกษตรต่างๆ อาทิ ข้าว และปุ๋ย ในการนี้ ฝ่ายไทยได้นำเสนอข้อมูลและศักยภาพด้านการผลิตและการลงทุนอุตสาหกรรมโคเนื้อของไทย รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับรูปแบบธุรกิจที่อยู่ในความสนใจของทั้งสองฝ่าย โดยบริษัท SALIC และ MINERVA แสดงความพร้อมที่จะเดินทางเยือนไทย เพื่อสำรวจลู่ทางการลงทุนในธุรกิจอุตสาหกรรมโคเนื้อไทย ในช่วงเดือนมกราคม 2567
“นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกหน่วยงานที่ขานรับการทำงานตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรีริเริ่มไว้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากแก่เกษตรกรไทย และรัฐบาลพร้อมที่จะดำเนินการเช่นนี้ต่อไป เพื่อหาโอกาสช่องทางการค้าสินค้าเกษตรและสินค้าปศุสัตว์ เพื่อให้พี่น้องชาวไทยมีรายได้มากขึ้น มีโอกาสในชีวิตมากขึ้น” นายสัตวแพทย์ชัย กล่าว.-314-สำนักข่าวไทย