กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – กรมการขนส่งทางบกยอมรับเตรียมเสนอ คสช.ออก ม.44 ยกเลิกเส้นทางสัมปทานเดินรถร่วม ขสมก.อีกครั้งภายในปีนี้ หลังจากทดสอบเดินรถเส้นทางใหม่ เพื่อสร้างการรับรู้ของประชาชนภายในเดือนนี้ ขณะที่ ขสมก.ยื่นหนังสือขอรักษาเส้นทางเดินรถ 138 เส้นทาง
ในช่วงเช้าที่ผ่านมานายวีระพงษ์ วงศ์แหวน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ยื่นหนังสือผู้บริหารกรมการขนส่งทางบก เพื่อเสนอเส้นทางเดินรถประจำทางของ ขสมก.ให้แก่ประธานอนุกรรมการปฏิรูปเส้นทางเดินรถประจำทางที่มีนายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นประธาน เนื่องจากที่ผ่านมารักษการผู้อำนวยการ ขสมก.หารือสหภาพฯ เพื่อศึกษาการปฏิรูปเส้นทางเดินรถในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อให้เส้นทางเหล่านี้สามารถวิ่งให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการซ้ำซ้อนเส้นทาง และเชื่อมต่อกับระบบขนส่งอื่น ๆ
ล่าสุดสหภาพฯ ขสมก.นำเสนอเส้นทางที่เหมาะสมแล้วขณะนี้มี 138 เส้นทาง โดยการยื่นหนังสือกรมการขนส่งทางบกวันนี้ เพื่อให้กรมฯ ออกใบอนุญาตเดินรถเหล่านี้ระยะเวลา 7 ปี เพื่อให้ ขสมก.วิ่งให้บริการและเส้นทางเหล่านี้จะช่วยคานอำนาจต่อรองรถร่วมเอกชน ขณะที่เส้นทางที่เหลือนอกจาก 138 เส้นทาง ก็ขอให้รถร่วมบริการสามารถเข้าไปประมูล เพื่อให้เกิดการแข่งขันในการเดินรถ รวมทั้งขอให้กระทรวงคมนาคมเร่งหารถใหม่ให้ ขสมก.วิ่งเส้นทางที่มีการปฏิรูปด้วย
นายวีระพงษ์ กล่าวถึงเส้นทางการเดินรถที่ ขสมก.พิจารณาเหลือ 138 เส้นทาง จากทั้งหมด 269 เส้นทางว่า เส้นทางที่เหลือจะเดินรถในปัจจุบัน 119 เส้นทาง เส้นทางใหม่ 19 เส้นทาง
ขณะที่นายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้รับมอบเอกสารจากสหภาพฯ ขสมก. ระบุว่าเส้นทาง ขสมก.คงมีการปรับเปลี่ยนบ้างเล็กน้อย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ากรมฯ ดำเนินการตามแนวทางที่กระทรวงคมนาคมมอบหมาย โดยภายในเดือนนี้จะทดสอบเดินรถ 8 เส้นทางในเขต 8 การเดินรถ เขตละ 1 เส้นทาง เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนสำหรับเส้นทางเดินรถใหม่ที่กำหนดขึ้น หลังจากนั้นจะนำเสนอให้กระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอให้ คสช.ใช้ ม.44 ประกาศยกเลิกสัมปทานเส้นทางเดินรถของรถร่วมบริการทั้งหมด เพื่อนำมาปรับเป็นเส้นทางใหม่ตามนโยบายดังกล่าว สำหรับสัมปทานเดินรถปัจจุบันส่วนใหญ่สัญญาหมดอายุไปแล้ว และจะหมดเพิ่มอีกภายในปีนี้ เชื่อว่าการใช้ ม.44 ยกเลิกเส้นทางครั้งนี้จะส่งผลกระทบไม่มาก โดยกรมฯ ตั้งเป้าหมายปรับปรุงเส้นทางเดินรถตามเส้นทางใหม่เห็นผลเป็นรูปธรรมภายในปี 2560.-สำนักข่าวไทย