นำตัวเพื่อนร่วมสถาบันคนเจ็บถูกยิง ชี้จุดเกิดเหตุ

กทม. 11 พ.ย.- ตำรวจนำตัวเพื่อนนักศึกษาผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุยิงกลางเมือง กระสุนพลาดโดนครูสาวเสียชีวิต มาชี้จุดเกิดเหตุ ยันไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน


ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ พาเพื่อนนักศึกษาผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุถูกวัยรุ่นไล่ยิงบริเวณริมถนนสุนทรโกษา มาชี้จุดเกิดเหตุ เพื่อนำไปประกอบสำนวนการสอบสวน จากการชี้จุดเกิดเหตุ จะสังเกตได้ว่าทางเพื่อนผู้เสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าธนาคารทหารไทยธนชาต ในระหว่างนั้นก็มีกลุ่มผู้ก่อเหตุ 2 คนขี่จักรยานยนต์มาจอดยิง ทำให้กระสุนพลาดเป้า ไปถูกครูโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์เสียชีวิต หลังจากนั้นก็ได้จ่อยิงกลุ่มเพื่อนนักศึกษา ได้รับบาดเจ็บ

เพื่อนรุ่นพี่ร่วมสถาบันของผู้บาดเจ็บ หลังถูกตำรวจคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อนผู้บาดเจ็บเปิดเผยว่า ขณะที่กลุ่มรุ่นน้องและผู้บาดเจ็บกำลังเดินลงจากรถเมล์ประจำทาง ก็ได้มีวัยรุ่นจำนวน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ และมีคนซ้อนอีก 1 คน มาประกบยิง โดยนัดแรกได้พลาดเป้าไปโดนผู้หญิง ซึ่งเป็นครูสาว ส่วนนัดต่อไปยิงโดนเพื่อนรุ่นน้องบริเวณลำตัว จนล้มลง ขนาดนั้นคนขับรถจักรยานยนต์ผู้ก่อเหตุ ตะโกนบอกมือยิง ให้ยิงซ้ำ มือยิงจึงเดินกลับไปจ่อยิงซ้ำแต่ปืนยิงไม่ออก 1 นัด ก่อนยิงซ้ำอีก กระสุนถูกเขาที่ลำคอ และขับรถหลบหนี ส่วนกลุ่มเพื่อนที่เหลือได้พยายามวิ่งหลบหนีเข้าไปในซอยใกล้เคียง แต่ต่อมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามจับ โดยเข้าใจผิดว่าเป็นกลุ่มเดียวกันกับผู้ก่อเหตุ จึงถูกควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจ


สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นนักศึกษาสถาบันหนึ่งย่านพญาไท ชั้นปีที่ 1 เพื่อนผู้ได้รับบาดเจ็บยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน เชื่อว่าเป็นปัญหาเรื่องสถาบันคู่อริ แต่ยังไม่ยืนยันได้แน่ชัด อยากให้ตำรวจเร่งติดตามจับตัวมาดำเนินคดี

ด้าน พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เดินทางมาที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ เร่งประชุมชุดสืบสวนเพื่อติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี โดยหลังประชุมจะส่งภาพรูปพรรณสัณฐานของผู้ก่อเหตุให้กับสื่อมวลชนเพื่อนำไปเป็นเบาะแสติดตามผู้ก่อเหตุ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยิงสู้ จนท.

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม หลังหนีข้ามมา จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายยิงต่อสู้

ขู่ยื่นเอาผิด รมว.ดีอี ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ปชช.

รัฐสภา 3 ธ.ค. – กมธ.ไอซีที สว. ขู่ ยื่น ม.157 เอาผิด รมว.ดีอี ฉุนเกียร์ว่าง ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ประชาชน – ปล่อย “หมอบุญ” หนีลอยนวล จี้รัฐยกปราบหลอกลวงออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม คนที่หก วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งนพ.บุญเดินทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี “จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง […]

ข่าวแนะนำ

บุญทรงรายงานตัว

“บุญทรง” รายงานตัวครั้งแรกหลังได้พักโทษ

“บุญทรง” รายงานตัวกับเจ้าหน้าที่คุมประพฤติครั้งแรก หลังได้รับการพักโทษจากคดีทุจริตจำนำข้าว ด้านลูกชายเผยพ่อตั้งใจบวชหลังพ้นโทษ

ชุมนุมเกาหลีใต้

นายกฯ ขอคนไทยในเกาหลีใต้ เลี่ยงพื้นที่ชุมนุม

“นายกฯ แพทองธาร” ขอคนไทยในเกาหลีใต้ ระมัดระวังหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมนุม ติดตามข่าวสถานทูตใกล้ชิด หวังสถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว

อัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว

อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากจีนสู่ไทย

“ชูศักดิ์” นำคณะผู้แทนไทยเดินทางไปยังวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานในไทยเป็นการชั่วคราว ณ ท้องสนามหลวง ระหว่าง 5 ธ.ค. 67 – 14 ก.พ. 68

ต้มยำกุ้งมรดกโลก

“ต้มยำกุ้ง” ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมฯ ยูเนสโก

เฮ! “ต้มยำกุ้ง” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมฯ โดยยูเนสโก ด้านนายกฯ เชิญชวนลิ้มลองรสชาติความอร่อย มั่นใจเป็นส่วนหนึ่งของ Soft Power ไทย สร้างความมั่นคงด้านอาหาร สู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน