สมุทรปราการ4 ธ.ค.-“อนุทิน” รมว.มหาดไทย บอกน้ำท่วมใต้ไม่แรงเท่าเหนือ ยัน นายกฯ เห็นความสำคัญชาวใต้ อนุมัติงบ 5,000 ล้าน เร่งเยียวยาด่วน ชี้ ผู้ว่าฯ มีอำนาจสั่งการเต็มที่ เผยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประจำอยู่ส่วนหน้าแล้ว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงงบเยียวยาน้ำท่วมภาคใต้ ที่ ครม. อนุมัติงบตั้งแต่เมื่อวาน (3 ธ.ค.) ว่า วงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อช่วยประชาชนครัวเรือนละ 9,000 บาท เพิ่มอีก 16 จังหวัด พร้อมขยายกรอบงบภัยพิบัติจาก 20 ล้านเป็น 50 ล้านบาท ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องไปประชุม ครม.ภาคเหนือ แต่ให้ลงพื้นที่ภาคใต้ทันที เพราะสถานการณ์หนักมาก
ทั้งนี้ การลงพื้นที่ของตนทำให้การทำงานรวดเร็วมากขึ้น ได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการขึ้นมา โดยขณะนี้อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ลงไปในพื้นที่เป็นส่วนหน้า เป็นภารกิจโดยตรงที่ต้องเข้าไปดูแลสถานการณ์ให้ผ่อนคลายขึ้น
นายอนุทิน ย้ำด้วยว่า หลังจากที่ตนได้กลับมาจากการลงพื้นที่ภาคใต้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รวบรวมข้อมูล เร่งสำรวจความเสียหายและเสนอต่อที่ประชุม ครม. เพื่อของบประมาณในการช่วยเหลืออุทกภัยน้ำท่วมภาคใต้
สำหรับงบประมาณช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ 5,000 ล้านบาทนั้น ตนได้นำเสนอกับนายกรัฐมนตรี และท่านเห็นด้วยที่จะอนุมัติงบประมาณก้อนนี้ เพื่อลงไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ เพื่อลดภาวะความทุกข์ยากของประชาชน พร้อมย้ำว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนถูกต้องหมดทุกอย่าง นี่คือการอนุมัติกรอบวงเงินเพื่อให้ ปภ. สามารถเร่งโอนเงินให้กับชาวบ้าน
ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 6 จังหวัด ที่ประสบอุทกภัย นายอนุทิน เผยว่า หากใครบริหารดีๆ นำงบ 50 ล้าน + 20 ล้าน เผื่อกรณีฉุกเฉิน ไม่รวมกับครัวเรือนละ 9,000 บาท สามารถบริหารจัดการสถานการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างแน่นอน
เมื่อถามว่า หลังจากน้ำลด รัฐบาลจะมีนโยบายช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า จะเยียวยาด้านสุขภาพ จิตใจ ความเสียหายต่างๆ จะมีการสำรวจ ซึ่งความเสียหายในภาคใต้คงไม่หนักหนาเท่ากับภาคเหนือ ที่มีดินโคลนและเศษซากไม้ รวมถึงการรุกล้ำพื้นที่ทำให้น้ำไม่สามารถผ่านได้ แต่พื้นที่ภาคใต้ยังไม่รุนแรงถึงขนาดนั้น ซึ่งเราเข้าไปดูแล ยืนยันอีกว่าตนจะลงพื้นที่ครั้ง
“ผู้ว่าฯ สามารถสั่งการได้อย่างเต็มที่ อธิบดี ปภ. ก็อยู่ในพื้นที่ด้วย รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์ของ ปภ. ก็อยู่ในพื้นที่ เพื่อที่จะลำเลียงสิ่งของจำเป็นต่างๆ ก็ไม่น่าเป็นปัญหา แต่ที่สำคัญไม่เป็นข่าว”.-319.-สำนักข่าวไทย