นครศรีธรรมราช 3 พ.ย. – ผ่านมากว่า 10 วันแล้ว ยังไร้เงา “เสี่ยแป้ง นาโหนด” มีเพียงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับขบวนการช่วยเหลือหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่เตรียมฝากขัง “หนอน” คนที่ช่วยพาหนี หลังเปิดปากสารภาพหมดเปลือก ขณะที่กรมราชทัณฑ์ เตรียมส่ง 2 ผู้คุมถูกหมายจับให้ตำรวจ
การติดตามคลี่คลายคดีขบวนการช่วยเหลือนายเชาวลิต หรือ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” นักโทษคดีอุกฉกรรจ์ หลบหนีการควบคุมของเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ขณะรักษาตัว ยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ความคืบหน้าล่าสุดพบว่า การแบ่งหน้าที่กันทำในการช่วยเหลือ “เสี่ยแป้ง” มีความชัดเจนมากขึ้น หลังนายสุทิวัส หรือ “หนอน ทุ่งลาน” ยอมเปิดปากสารภาพอย่างละเอียด และเจ้าหน้าที่นำตัวไปชี้ที่เกิดเหตุ โดยคำให้การยังเชื่อมโยงไปถึงนายจีระวุฒิ หรือ ปอย และนายจักรี หรือ บิ๊ก ผู้เป็นกลไกสำคัญในการพาเสี่ยแป้งหลบหนี แต่ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่มากนัก ทั้งยังปกปิดข้อมูลบางอย่าง และหลังเที่ยงวันนี้ (3 พ.ย.66) นายหนอน จะถูกควบคุมตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ฝากขังผัดแรก
ราชทัณฑ์ประสานเตรียมนำ 2 ผู้คุมมอบตัว
ส่วนการออกหมายจับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 2 ราย คือ นายวรินทร และนายเอกลักษณ์ ผู้ปฏิบัติงานในช่วงเวลาที่เสี่ยแป้งหลบหนี ซึ่งศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช อนุมัติหมายจับเมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ในฐานความผิดตามมาตรา 157 ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานผู้มีตำแหน่งหน้าที่ควบคุมผู้ต้องขังตามอำนาจศาลตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป กระทำการใดๆ ให้ผู้อยู่ระหว่างการควบคุมหลุดพ้นจากการคุมขังไป ขณะนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ทั้ง 2 ราย ถูกสั่งย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ในกรมราชทัณฑ์ และอยู่ระหว่างผู้บังคับบัญชาประสานกับ พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เพื่อนำทั้งสองคนมามอบตัวใน 1-2 วัน
เพื่อนผู้คุมตั้งข้อสังเกต “คนเปลี่ยนโซ่เสี่ยแป้ง” ยังไม่ถูกหมายจับ
ด้านเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์รายหนึ่ง ซึ่งไม่ขอเปิดเผยตัว ระบุว่า การออกหมายจับทั้ง 2 ราย เสมือนแพะรับบาป จริงๆ แล้วมีไอ้โม่งตัวใหญ่อยู่เบื้องหลัง และจัดวางให้ทั้งคู่จะต้องรับผิดชอบเหตุการณ์ ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ทุกฝ่ายทราบดีมาตั้งแต่ต้น จากคำให้การ น.ส.วิลาวัลย์ หรือ ไหม คนเฝ้าไข้ ว่ามีการเปลี่ยนเครื่องพันธนาการแบบหละหลวมให้เสี่ยแป้ง ตั้งแต่ตอนกลางวัน ก่อนหน้าที่ทั้งคู่จะมารับช่วงต่อ ซึ่งผู้คุมคนที่เปลี่ยนเครื่องพันธนาการให้เสี่ยแป้ง ยังไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เช่นเดียวกับคนที่สั่งการให้ผู้คุมที่ถูกออกหมายจับมารับหน้าที่เฉพาะกลางคืน ก็ยังไม่ได้รับผลใดๆ เช่นกัน
เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์รายดังกล่าวยังตั้งข้อสังเกตต่อว่า ทำไมเมื่อวานนี้เพิ่งส่งของกลางเครื่องพันธนาการที่ใช้ในคืนเกิดเหตุมาให้ตำรวจ แม้แต่คนในเรือนจำหลายคนก็ยังไม่เชื่อว่า เครื่องพันธนาการชุดนั้นเป็นชุดเดียวกันกับชุดที่เกิดเหตุเปลี่ยนช่วงแรก ต้องถามกันตรงๆ ว่า คนที่เปลี่ยนโซ่วันนั้นถูกเรียกสอบหรือยัง วงจรปิดในหอผู้ป่วยยิ่งชัด นั่นคือคำตอบในตัวเอง
อย่างไรก็ตาม น่าเบาใจไปส่วนหนึ่งว่า ผู้บังคับบัญชาระดับกรมฯ ทราบดีว่า ทั้งคู่ที่ถูกหมายจับมีพฤติกรรมอย่างไร และรู้ดีว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นบ้าง. – สำนักข่าวไทย