กรมการค้าภายใน ขออย่าผลักภาระขึ้นราคาน้ำตาลทรายกระทบผู้บริโภค

นนทบุรี 27 ต.ค.-รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุได้ยื่นเรื่องให้ สอน. อย่าขึ้นราคาน้ำตาลทราย โดยใช้เหตุผลตลาดโลกขยับ มาขอปรับราคาในประเทศแทน ย้ำไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกรายใหญ่ คนในประเทศไม่ควรต้องซื้อแพง ไม่ควรผลักภาระให้ผู้บริโภค พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ตรวจเข้ม ป้องกันฉวยโอกาส

ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) จะพิจารณาปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานอีกกิโลกรัม (กก.) ละ 4 บาท ว่า กรมได้ทำหนังสือถึง สอน. ในฐานะที่กำกับดูแลสินค้าน้ำตาลทราย โดยเห็นว่าการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย ไม่ควรจะใช้เหตุผลราคาน้ำตาลทรายตลาดโลก ที่ปัจจุบันอยู่ที่ กก.ละ 26.50 บาท เพราะไทยเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำตาลทรายรายใหญ่ แต่ละปีมีผลผลิตประมาณ 10 ล้านตัน บริโภคในประเทศทั้งใช้ในอุตสาหกรรมและครัวเรือน 2.5 ล้านตัน เหลือส่งออก 7.5 ล้านตัน จึงต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้บริโภค และผลกระทบเกี่ยวเนื่องจากการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย หากจะปรับขึ้นราคา
         
อย่างไรก็ตาม ยังเห็นอีกว่าการปรับราคา 4 บาทต่อกก. เพื่อจัดสรรผลประโยชน์ 2 บาทต่อกก. เข้าอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย โดยแบ่งให้ชาวไร่และโรงงาน และอีก 2 บาทต่อกก. นำส่งเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมและฝุ่น PM 2.5 ส่วนนี้เป็นการผลักภาระให้ผู้บริโภค อยากให้ใช้วิธีการเสนอต่อรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ จะเหมาะสมกว่าที่จะผลักภาระให้ประชาชนต้องบริโภคน้ำตาลทรายในราคาสูงขึ้น 


ทั้งนี้ กรมฯไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบการจำหน่ายน้ำตาลทรายอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในห้างค้าส่งค้าปลีก พบว่าราคายังเป็นปกติ ปริมาณมีเพียงพอ และได้มีการตรวจสอบกับฝ่ายจัดซื้อของห้างต่าง ๆ พบว่า ไม่มีปัญหาการจัดส่ง ยังมีสินค้าจัดส่งตามปกติ โดยราคาขายปลีกอยู่ที่ 24-25 บาท ขึ้นอยู่กับว่าเป็นน้ำตาลทรายขาว หรือน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ ส่วนร้านค้าทั่วไป ราคาอาจจะสูงกว่านี้เล็กน้อย แล้วแต่ช่วงการค้า ที่อาจจะรับมาหลายต่อ หรือขึ้นอยู่กับการขนส่งใกล้ไกล โดยจะมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการทราบข่าวว่าจะมีการขึ้นราคา และฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา เพราะขณะนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะปรับขึ้นเท่าไร ยังไง โดยจากที่ตรวจสอบดูประกาศราคาหน้าโรงงาน ที่ออกมาตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.2566 ยังไม่มีเปลี่ยนแปลง ยังคงราคาเดิม 19-20 บาทต่อกก. ซึ่งหากพบเห็นการฉวยโอกาส ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”ร.ต.จักรากล่าว
         
สำหรับผลกระทบต่อการผลิตสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่ม ขนมหวาน ขณะนี้ยังไม่เกิดขึ้น เพราะยังไม่ได้มีการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย แต่ถ้าต่อไปมีการปรับขึ้นราคาจริง ก็จะมีการพิจารณาต้นทุนอย่างเหมาะสม และดูต้นทุนตัวอื่น ๆ ประกอบด้วย เพราะแม้น้ำตาลทรายจะปรับขึ้น ต้นทุนตัวอื่นอาจจะลดลง รวมแล้ว ผู้ผลิตอาจจะไม่มีผลกระทบเลยก็ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป.-สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ