ขีดเส้น 5 วัน รู้ข้อเท็จจริง “เสี่ยแป้ง” หลบหนี

กรุงเทพฯ 24 ต.ค. – รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ขีดเส้นตาย 5 วัน ตรวจสอบให้รู้ความจริง “เสี่ยแป้ง นาโหนด” หลบหนีจากโรงพยาบาลทำเป็นขบวนการ หรือแค่เจ้าหน้าที่ประมาท เผยเหตุ “ฟันแตก” จึงต้องส่งรักษาโรงพยาบาลภายนอก ล่าสุดพบเบาะแสยังเคลื่อนไหวอยู่ในจังหวัดใกล้เคียงกับ จ.พัทลุง


นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวกับสำนักข่าวไทย ว่าได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการหลบหนีของ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” หรือ นายเชาวลิต ทองด้วง แล้วใน 2 ประเด็น คือ ประเด็นที่ 1 ตรวจสอบว่าเป็นความบกพร่อง, ความประมาท หรือการไม่ปฏิบัติตามระเบียบราชการของเจ้าหน้าที่หรือไม่ และประเด็นที่ 2 ตรวจสอบว่าเกิดจากความประพฤติไม่ชอบ หรือเกิดจากความเอื้อประโยชน์ให้นักโทษ โดยทำเป็นขบวนการหรือไม่ ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นจะต้องมีการสอบสวนให้รวดเร็วชัดเจนภายใน 5 วัน นับจากวันนี้ (24-28 ต.ค.) เนื่องจากนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกำชับมา โดยให้เร่งพิสูจน์ให้สังคมได้ทราบข้อเท็จจริง โดยประธานตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ เป็นผู้ใหญ่ที่มีศักยภาพที่จะทำความจริงให้ปรากฏออกมา

โดยในชั้นนี้ยังระบุไม่ได้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่เรือนจำกี่คนเข้าไปเกี่ยวข้อง ต้องพิสูจน์หาสาเหตุ และสืบสาวราวเรื่อง ไปยังตัวละครที่เกี่ยวข้อง ถ้าหากเป็นการกระทำโดยทุจริตก็ย่อมมีผู้เกี่ยวข้องหลายคน แต่ถ้าเกิดจากความประมาทอาจมีผู้เกี่ยวข้องเฉพาะกลุ่ม-เฉพาะคน


รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงสาเหตุที่ต้องส่งตัว “เสี่ยแป้ง” ไปรักษายังโรงพยาบาลภายนอก ว่า “เสี่ยแป้ง” มีอาการฟันแตก และทางเรือนจำไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง จึงนัดหมายทันตแพทย์เพื่อตรวจรักษา แต่ปรากฏว่าในวันนัด หมอฟันลาป่วย จึงจำเป็นต้องเลื่อนนัดออกไปก่อน แต่ระหว่างจะคุมตัวเสี่ยแป้ง กับมายังเรือนจำ “เสี่ยแป้ง” เกิดอาการวูบ ขาอ่อนแรง แพทย์จึงทำตัวส่งห้องฉุกเฉินและแอดมิดในโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา กระทั่ง เวลา 01.00 น. ของวันที่ 22 ตุลาคม ได้หลบหนีจากโรงพยาบาล ทั้งนี้ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ยังระบุว่าจะต้องตรวจสอบ ว่าการที่ “เสี่ยแป้ง” จู่ๆ มีอาการวูบความดันต่ำ ขาอ่อนแรงกะทันหัน ทำให้ต้องนอนแอดมิดในโรงพยาบาลเป็นการแสร้งทำ และสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมา เนื่องจากมีการวางแผนหลบหนีเอาไว้แล้วหรือไม่

รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ระบุว่ายังไม่ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ ว่า “เสี่ยแป้ง” หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว จากข้อมูลล่าสุด พบว่า ยังหลบหนีอยู่ในจังหวัดใกล้เคียงกับจังหวัดพัทลุง ส่วนจะมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วยหรือไม่นั้น ไม่ทราบ แต่กรณีนักโทษที่คิดจะหลบหนีก็น่าเชื่อว่าจะต้องมีอาวุธ ที่เตรียมไว้ต่อสู้กับเจ้าพนักงาน จึงกำชับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ที่ไล่ล่าให้ทำงานด้วยความรอบคอบและปลอดภัย

นายสหการณ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่ดูแลงานมั่นคงปลอดภัย และผู้บัญชาการเรือนจำทั่วประเทศ ให้ยกระดับมาตรการดูแลผู้ต้องขังที่ออกไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลภายนอก และผู้ต้องขังที่ออกไปทำกิจกรรมภายนอกให้ดูแลอย่างรอบคอบเข้มแข็งและอยู่ในสายตา และใช้มาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดไม่ให้หลบหนีและก่อเหตุ เราจะต้องมีการยกเครื่อง มาตรการคุมเข้มผู้ต้องขังทั้งในเรือนจำและนอกเรือนจำ. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง