เทล อาวีฟ 13 ต.ค. – นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าววานนี้ว่า เขามีกำหนดจะเดินทางไปยังซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ และจอร์แดน ในการตระเวนเยือนภูมิภาคตะวันออกกลาง เพื่อกดดันกลุ่มฮามาส หลังจากก่อเหตุโจมตีอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัว
นายบลิงเคน ประกาศกำหนดการเยือนของเขาเพิ่มเติมในระหว่างการแถลงข่าวหลังจากเจรจากับผู้นำอิสราเอล หลังจากที่กระทรวงต่างประเทศประกาศก่อนหน้านี้ว่า หลังจากเยือนอิสราเอลแล้ว เขาจะเดินทางต่อไปยังจอร์แดน เพื่อเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลาห์ที่ 2 และในวันศุกร์ จะพบหารือกับประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ของปาเลสไตน์ และจะเดินทางไปยังกาตาร์ต่อไป
เมื่อวานนี้ นายบลิงเคน กล่าวว่า เขาจะเดินทางไปเยือนอียิปต์ ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในด้านการทูตของโลกอาหรับ รวมถึงจะไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดีอาระเบียด้วย ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์โจมตี ซาอุดีอาระเบียได้เริ่มขั้นตอนในการสถาปนาความสัมพันธ์ฉันท์ปกติกับอิสราเอล ซึ่งเป็นแนวทางที่สหรัฐให้การสนับสนุน
นายบลิงเคนกล่าวระหว่างการแถลงข่าวที่กรุงเทลอาวีฟ ของอิสราเอล ว่า แต่ละประเทศที่ไปเยือน เขาจะผลักดันให้ประเทศเหล่านี้ช่วยเหลือในการป้องกันมิให้ความขัดแย้งขยายวงกว้างออกไปและใช้อิทธิพลกับกลุ่มฮามาสให้ปล่อยตัวประกันในทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข
ทั้งนี้ ชาวอิสราเอลและชาวต่างชาติอย่างน้อย 150 คน จับเป็นตัวประกันในฉนวนกาซา ตั้งแต่กลุ่มฮามาสระดมโจมตีและส่งนักรบข้ามชายแดนเข้ามาก่อเหตุโจมตีในอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ที่แล้วและสังหารประชาชนไปมากกว่า 1,200 คนในอิสราเอล ซึ่งอิสราเอลตอบโต้ด้วยการใช้การโจมตีทางอากาศและยิงปืนใหญ่ถล่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา 6 วันติดต่อกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,350 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน.-สำนักข่าวไทย