แรงงานไทย 15 คน เข้าตรวจสภาพร่างกาย-จิตใจ

กรุงเทพฯ 12 ต.ค. – แรงงานไทย 15 คน เข้าตรวจสภาพร่างกายและจิตใจ พร้อมรับมอบเงินเยียวยา ประเมินเบื้องต้น เป็นนักสู้ จิตใจเข้มแข็ง กลับบ้านได้ทุกคน


ที่สถาบันบำราศนราดูร ในช่วงบ่ายแรงงานไทยชุดแรก 15 คนที่กลับมาจากอิสราเอล เดินทางมาที่อาคาร Quarantine Centre เข้ารับการตรวจคัดกรองทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ พร้อมรับเงินเยียวยาจากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ของกระทรวงแรงงาน โดยมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม

จากการประเมินอาการเบื้องต้น มีผู้บาดเจ็บ 2 คนที่ต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.ราชวิถี คือ นายกรัชกร ชาวพะเยา ถูกยิงที่หัวเข่า และนายสมมา แซ่จ๊ะ ถูกยิงที่ขา ต่อมาแพทย์ประเมินอาการคนไข้อย่างละเอียดแล้ว ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลและผู้ป่วยประสงค์จะกลับบ้าน เช่นเดียวกับผู้ถูกยิงอีก 2 คน สรุปว่าวันนี้ แรงงานทุกคนกลับบ้านได้แล้ว


ส่วนแรงงานไทยอีก 11 คน ประเมินสภาพร่างกายและจิตใจแล้วส่วนใหญ่จิตใจเข้มแข็ง เป็นนักสู้ แต่หากตรวจอย่างละเอียดแล้วพบว่ามีภาวะเครียดจากภาวะสงคราม จะต้องเข้าสู่กระบวนการเยียวยาจิตใจ โดยมีทีม MCATT ติดตามไปดูแลถึงที่บ้าน อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน และหากใครประสงค์จะเดินทางกลับภูมิลำเนา ก็สามารถเดินทางกลับได้เลย โดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมฯ อำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทาง แต่หากใครยังไม่พร้อมเดินทางกลับสามารถพักชั่วคราวได้ที่อาคาร Quarantine Centre สถาบันบำราศนราดูร สำหรับแรงงานไทยในชุดถัดไปที่จะกลับจากอิสราเอล อาจไม่จำเป็นต้อง เดินทางเข้ามาตรวจคัดกรองโรคที่นี่อีกแล้ว สามารถสกรีนโรคได้ที่ด่านควบคุมโรคสนามบินสุวรรณภูมิได้เลย เพราะได้รับการยืนยันแล้วว่าที่อิสราเอลไม่มีโรคระบาดที่น่าเป็นห่วง

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน บอกว่าแรงงานทั้ง 15 คน เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ฉะนั้นเมื่อได้รับผลกระทบจากภาวะสงคราม จนต้องเดินทางกลับประเทศ จะได้รับเงินเยียวยา รายละ 15,000บาท กรณีพิการได้เพิ่มอีก 15,000 บาท, ทุพพลภาพ 30,000 บาท, เสียชีวิต 40,000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายในการจัดการศพในต่างประเทศ จ่ายตามจริง ไม่เกิน 40,000 บาท

ส่วนเงินช่วยเหลือจากทางการอิสราเอล National Insurance Institute ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนประสานงาน กรณีบาดเจ็บหรือพิการ หากบาดเจ็บ 0-10% ไม่ได้รับค่าตอบแทน บาดเจ็บ 10-19% ได้รับเงินก้อนเดียว ไม่เกิน 150,000 เชคเกล (ประมาณ 1,440,000 บาท) บาดเจ็บเกิน 20% ได้เงินรายเดือนทุกเดือนจนกว่าจะเสียชีวิต โดยคำนวณตามเปอร์เซ็นต์สูญเสีย และกรณีเสียชีวิต ภรรยาและบุตรของผู้เสียชีวิตทุกคนจะได้รับเงินช่วยเหลือทุกเดือน จนภรรยาจะแต่งงานใหม่ หรือลูกมีอายุครบ 18 ปี โดยภรรยาจะได้รับเงินสงเคราะห์ 60% ของ 6,000 เชคเกลทุกเดือน (ประมาณ 34,560 บาท/เดือน) ส่วนบุตรอายุไม่เกิน 18 ปี จะได้รับเงินสงเคราะห์ 10-20% ของ 6,000 เชคเกลทุกเดือน (ประมาณ 5,760 – 11,520 บาท/เดือน)


อย่างไรก็ตาม จากพูดคุยกับแรงงานส่วนใหญ่ พบว่าไม่ประสงค์จะเดินทางกลับไปยังอิสราเอลอีกและต้องการให้กระทรวงแรงงานหาพื้นที่ประเทศอื่นให้ได้ทำงานต่อ เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย แต่หากรายใดประสงค์จะกลับไปทำงานที่อิสราเอลอีกครั้ง ล่าสุดได้เจรจากับทางการอิสราเอลแล้ว สามารถเดินทางกลับไปทำงานได้ โดยใช้สัญญาเดิม ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใหม่ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ