กรุงเทพฯ 12 ต.ค. – ก.พลังงาน ประชุมตามติดผลกระทบสงครามในอิสราเอล โล่งราคาน้ำมันลดลง หลังสงครามไม่บานปลาย วางแผนก๊อกสองหากราคาน้ำมันพุ่งแรงจะใช้ “ภาษี-กองทุนน้ำมัน” ดูแล ส่วนปัญหารับซื้อไฟฟ้าพลังงานทดแทน วอนศาลปกครองเห็นใจ เปิดทางรายอื่นลงนามสัญญา หวังเงินกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 3 แสนล้านบาท
นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า วันนี้ (12 ต.ค.) กระทรวงฯ ประชุมติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ราคาพลังงานจากการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส โดยหารือกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อประเมินสถานการณ์ราคาพลังงานจากผลกระทบการสู้รบของอิสราเอลและกลุ่มฮามาส พบว่าราคาน้ำมันเริ่มอ่อนตัวลง แต่กระทรวงฯ ยังคงเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยในส่วนของน้ำมันยืนยันมีแผนดำเนินการไม่ขาดแคลน เพราะไทยมีการสั่งน้ำมันจากหลายแหล่ง และมีสำรองจากทั้งทางกฎหมายและการสำรองของเอกชน รวมทั้งอยู่ในระหว่างการเดินเรือนานถึง 70 วัน ขณะเดียวกันยังมีกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะดูแลระดับราคาดีเซลไว้ระดับเดิมจนถึงสิ้นปี
นอกจากนี้หากเกิดปัญหาลุกลามและส่งผลให้ราคาน้ำมันแพงขึ้น กระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลังได้หารือกันอย่างใกล้ชิดว่าจะยกระดับการดูแลค่าครองชีพประชาชนให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดอย่างไร โดยทางกระทรวงการคลังพร้อมจะใช้กลไกภาษีสรรพาสามิตน้ำมันเข้ามาดูแลเพิ่มเติม ส่วนกระทรวงพลังงานเตรียมแผนใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาดูแลเพิ่ม โดยเฉพาะการกู้ยืมเงินที่กองทุนฯ อาจจะต้องขอกู้เพิ่มเติมจากเพดานการกู้เดิมที่มีถึง 1.1 แสนล้านบาทแล้ว อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ปัจจุบันยังไม่มีความจำเป็นใดๆ
ส่วนอัตราค่าไฟฟ้าในงวดเดือนมกราคม-เมษายน 2567 หลังจากงวดนี้ (ก.ย.-ธ.ค. 66) ลดค่าไฟฟ้าเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ต้องพิจารณาแนวโน้มราคาเชื้อเพลิงอีกครั้ง โดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) และปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติในแหล่งเอราวัณที่จะเพิ่มเป็น 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในเดือนเมษายน 2567 ตามสัญญา จากปัจจุบันอยู่ที่ 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หากราคาแอลเอ็นจีลดลงและปริมาณก๊าซฯ ตามแผนจะส่งผลดีต่อค่าไฟ
นอกจากนี้กระทรวงฯ ได้วางแนวทางการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน โดยได้มีการหารือร่วมกับกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ที่จะดำเนินมาตรการใช้กลไกภาษีเงินได้นิติบุคคลและบุคคลธรรมดามาสนับสนุนการลดหย่อนให้กับประชาชน ธุรกิจที่มีการลงทุนปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เพื่อการประหยัดพลังงาน รวมถึงการติดตั้งแผงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) โดยจะเร่งให้ได้ข้อยุติเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในการดำเนินการภายในไม่เกิน 6 เดือน
ขณะที่การติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปในหน่วยงานรัฐ กระทรวงฯ หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับระเบียบของภาครัฐ ด้วยรูปแบบการเปิดให้บุคคลที่สามสามารถเข้ามามีส่วนร่วม (Third Party Access) เพื่อดึงเอกชนมาร่วมพัฒนา แล้วขายไฟให้ราชการเพื่อลดรายจ่ายค่าไฟฟ้า
นอกจากนี้ยังเตรียมทบทวนบทบาทของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานใหม่ เพื่อให้สอดรับกับบริบทต่างๆ ที่เปลี่ยนไป และให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดของการใช้เงิน โดยจะมีการประเมินผลลัพธ์การดำเนินงานที่ผ่านมา รวมถึงกติกาต่างๆ ที่มีอยู่ว่าเหมาะสมหรือไม่ โดยเฉพาะการขอรับเงินสนับสนุนฯ ปัจจุบันที่กำหนดส่งเสริมใน 7 กลุ่มงาน ระเบียบต่างๆ ที่เป็นอุปสรรค เป็นต้น โดยจะเร่งดำเนินการใน 3-6 เดือน
นายประเสริฐ ยังกล่าวถึงโรงไฟฟ้าชุมชนเฟส 2 ว่ายังคงเดินหน้าต่อไป แต่จะกำหนดจากพื้นที่เป็นหลัก เพื่อส่งเสริมการเพาะปลูกพืชพลังงานให้เหมาะสมกับพื้นที่ และมุ่งเน้นการใช้ไฟฟ้าในชุมชนเป็นสำคัญ เมื่อเหลือใช้จึงจะจำหน่ายเข้าระบบ โดยกำลังขอความเห็นจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงพื้นที่ที่เหมาะสมในการดำเนินงาน เบื้องต้นจะนำร่อง 200 เมกะวัตต์ (MW) ภาพจะชัดเจนภายใน 6 เดือน
ส่วนกรณีการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (RE) รูปแบบ FiT ปี 2565-2573 จำนวน 5,000 เมกะวัตต์ (MW) ที่ศาลปกครองเพชรบุรีมีคำสั่งทุเลาโครงการเสนอขายไฟฟ้าของบริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม บริษัทย่อยของบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ยื่นเรื่องฟ้องคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2566 ที่ผ่านมา รวมถึงมีรายอื่นๆ ทางกระทรวงฯ เตรียมทำหนังสือถึงศาลปกครองเพื่อเป็นข้อสังเกตให้เห็นถึงความจำเป็น เนื่องจากจะกระทบต่อการลงทุน หากต้องมีปัญหาทั้งหมดและล่าช้าออกไป ขณะเดียวกันการเปิดรับซื้อรอบใหม่อีกกว่า 3,000 เมกะวัตต์ มีเอกชนเสนอแก้ไขให้เอกชนที่ฟ้องร้อง รอบ 1 สามารถเข้ามาเสนอจำหน่ายไฟฟ้าได้ หรือการเสนอประมูลราคา ในเรื่องเหล่านี้ทางกระทรวงฯ รับไว้ศึกษาความเหมาะสม และจะเสนอ รมว.พลังงาน พิจารณาให้นโยบายต่อไป
“ขณะนี้ประเทศต้องการเม็ดเงินลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ โครงการ RE รอบ 1 เม็ดเงินลงทุนรวมกว่า 3 แสนล้านบาท และจะช่วยลดต้นทุนค่าไฟจากก๊าซฯ ที่แพง รวมถึงช่วยลดโลกร้อน ทางกระทรวงฯ หวังว่าศาลปกครองจะพิจารณาส่วนเหล่านี้ประกอบ เพื่อให้เกิดการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของผู้ชนะโครงการไปแล้ว โดยแผนงานของตนที่เข้ามาเป็นปลัดฯ ก็มีเป้าหมายช่วยทำให้ต้นทุนพลังงานต่ำสุด ดีต่อประชาชน และสร้างความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย” นายประเสริฐ กล่าว.-สำนักข่าวไทย