กทม.7 ก.ค.- คุม 4 ผู้ต้องหาทำร้ายดาบตำรวจ สน.สายไหมจนสลบขณะเข้าระงับเหตุในปั๊มน้ำมัน ฝากขังศาลจังหวัดมีนบุรี ค้านประกันตัว แม่ 1 ใน 4 บอกลูกเป็นคนทำมาหากิน กินเหล้าในบางครั้งที่อยู่บ้าน
ตำรวจสน.สายไหม นำตัวนายโสภณ โกสินทร์, นายรัตนเทพ ชัยปราณีเดช, นายสิทธิชัย โสลุน และนายปกรณ์ ชูวงศ์ ซึ่งก่อเหตุรุมทำร้ายดาบตำรวจธวัช สายเสมอ จนสลบขณะเข้าระงับเหตุในปั๊มน้ำมัน ย่านสุขาภิบาล 5 ไปขออำนาจศาลจังหวัดมีนบุรีฝากขัง
พันตำรวจเอกธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว ผู้กำกับ สน.สายไหม กล่าวว่า ผู้ต้องหาไม่ค่อยให้ความร่วม ตลอดคืนที่ผ่านมา ไม่ยอมให้ปากคำและพิมพ์ลายนิ้วมือ เพิ่งจะยินยอมช่วงสายวันนี้(7 ก.ค.) ทำให้การนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังล่าช้า เบื้องต้น พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์, ต่อสู้และขัดขวางการจับกุมของเจ้าหน้าที่, ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน (เมาสุราหรือใช้สารมึนเมาอื่น ขณะขับรถ ข้อหานี้แจ้งเฉพาะนายโสภณ ) และอยู่ระหว่างเสนอผู้บังคับบัญชาแจ้งข้อหา ทำให้ทรัพย์สินทางราชการเสียหาย ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมจะออกไปข่มขู่พยาน และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน โดยในช่วงเช้านายโสภณมีอาการเครียด และโวยวายในห้องควบคุมรวมถึงเตะประตูห้องขัง
ขณะที่ด้านหน้า สน.มีญาติของผู้ต้องหากว่า 10 คน มาคอยดูแลด้วยความเป็นห่วง นางพูลจิตร์ ทับหิรัญ แม่นายโสภณ กล่าวว่า ลูกชายไม่ใช่คนเกเร เป็นคนทำมาหากิน มีเมียและลูก 2 คน มีอาชีพตระเวนซื้อน้ำมันพืชเก่ามาเกือบ 10 ปี ดื่มสุราเป็นบางครั้งเมื่ออยู่บ้าน ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมตามที่บางสื่อบอกว่าเป็นสมาชิกแก๊งยันหว่าง นอกจากนี้ยังส่งเสียค่าใช้จ่ายให้ครอบครัววันละ 300-500 บาท เพิ่งซื้อทาวน์เฮ้าส์อยู่ที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ 1 ปี ต้องส่งค่าบ้านเดือนละ 13,500 บาท ส่วนเหตุการทำร้ายร่างกายกันที่ สน. ฝ่ายลูกชายถูกทำร้ายร่างกาย เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุโดยเจ้าหน้าที่ไม่ยอมเข้าห้ามหรือระงับเหตุการณ์ จึงขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ โดยฝ่ายผู้ต้องหาได้แจ้งความเอาผิดฝ่ายอาสาสมัคร ในข้อหาทำร้ายร่างกายแล้ว.-สำนักข่าวไทย
![](https://imgs.mcot.net/images//2017/07/1499417671433.jpg)