ฮ่องกง 8 ต.ค. – “เศรษฐา” ปลื้ม นักลุงทุนฮ่องกง ชมไทยผลักดันวีซ่าฟรีจีน ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เล็งเดินสายจัดโรดโชว์ ดึงนักลงทุนปีหน้า เชื่อมาครั้งนี้ได้ประโยชน์ ด้านนักธุรกิจ บอกไทยมีศักภาพพร้อม ดันเป็นพี่ใหญ่ในภูมิภาคอาเซียน ไม่กังวล เหตุนักท่องเที่ยวถูกยิงสยามพารากอน มองเป็นเหตุสุดวิสัย
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังหารือภาคธุรกิจ รวมถึงผู้บริหารสนามบิน เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ซึ่งถือเป็นสนามบินที่มีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จสูงสุด เป็นศูนย์กลางที่สะดวกสบาย เข้าใจว่าเป็นหนึ่งทีมงานที่เข้าไปเป็นที่ปรึกษาสร้างสนามบินอู่ตะเภาด้วย และหากประสบความสำเร็จ ก็จะเป็นศูนย์กลางขยายไปสู่ภูมิภาค และมีความเข้าใจถึงศักยภาพการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งมีความสนใจที่ไทยเตรียมจะขยายสนามบินที่จังหวัดเชียงใหม่ และภูเก็ต รวมถึงการขยายสนามบินในเมืองรอง และหากผู้บริหารการท่าของฮ่องกงเดินทางไปประเทศไทย ก็จะได้พูดคุยกับภาคส่วนการบินของไทยด้วย
ขณะเดียวกันได้หารือกับผู้บริหารของธนาคาร HSBC ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในธนาคาร ที่ใหญ่สุดของโลก ซึ่งอยากให้ไทยมาจัดโรดโชว์ ที่ฮ่องกง และ ตะวันออกกลาง เพราะธนาคารดังกล่าวมีการทำธุรกรรมสูงที่สุดในตะวันออกกลาง ซึ่งที่ผ่านมาเราไม่ได้มีการจัดโรดโชว์มานานมาก โดยตนได้หารือกับตลาดหลักทรัพย์ไปแล้ว คาดว่าจะสามารถจัดได้ช่วงหลังปีใหม่ โดยตะวันออกกลางเสนอให้ไปที่ประเทศ กาตาร์ ยูเออี และซาอุ 3 เมือง 3 ประเทศ ทั้งนี้ก็อยากให้มาจัดที่ฮ่องกงก่อน เพราะเขาต้องการการลงทุนมากขึ้น ซึ่งจะได้นำเจ้าหน้าที่รัฐ และบริษัทขนาดใหญ่ ที่คิดว่าอยากลงทุนข้ามชาติ มาร่วมจัดโรดโชว์ ซึ่งได้มอบหมาย ให้ตลาดหลักทรัพย์ไปพิจารณา
อย่างไรก็ตามภาคธุรกิจของฮ่องกง ต้องการให้การลงทุนของประเทศไทยลดขั้นตอน ลดความซับซ้อนลง พร้อมมองว่าไทยมีศักยภาพมาก ทั้งทางด้านการท่องเที่ยว การเงิน และภาคอุตสาหกรรม และเสนอให้ ไทยสถาปนาตัวเองเป็นพี่ใหญ่ ในภูมิภาคอาเซียน เพราะที่ตั้งของไทยมีความเหมาะสม ดังนั้นเราต้องมีการเตรียมตัว เพื่อให้การทำธุรกิจง่ายขึ้น แต่เราก็ต้องไม่ลืมเรื่องความชอบธรรม และยุติธรรม แต่อย่างไรก็ตามได้มีการพูดคุยถึงวิธีการในการลงทุน ซึ่งจะมีข้อระมัดระวัง เช่นเรื่องของกรรมสิทธิ์ที่ดินด้วย เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
“ทุกคนมองว่าประเทศไทยน่าสนใจมาก และอยากให้เราช่วยสนับสนุนเขา ซึ่งวันนี้เป็นการพูดคุยกลุ่มย่อย บรรยากาศเป็นไปด้วยดี สามารถพูดคุยกัน อย่างตรงไปตรงมา ว่าสิ่งใดสามารถทำได้หรือไม่ได้ ตื่นเต้น และเชื่อว่า มาครั้งนี้ได้ประโยชน์ ซึ่งพรุ่งนี้ช่วงเที่ยง ก็จะหารือกับผู้นำสูงสุด ของฮ่องกง เปรียบเทียบได้กับนายกรัฐมนตรีของที่นี่” นายเศรษฐา กล่าว
ทั้งนี้ไทย และฮ่องกง มีปัญหาเรื่องการขาดแคนแพทย์ และพยาบาลเหมือนกัน แต่เขาระบุว่า มีความสามารถด้านเทคโนโลยี จึงอาจจะมีการหารือเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีระหว่างกัน โดยตนได้มอบหมายให้นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รับเรื่องดำเนินการต่อว่าจะสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลอะไรกันได้
ส่วนที่ถูกชื่นชมตัวนายกฯ เอง ในการผลักดันนโยบายวีซ่าฟรี ให้กับจีน นั้นนายกรัฐมนตรี ระบุว่ากลุ่มนักลงทุน มองว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ซึ่งตนก็ระบุว่า อะไรทำได้ทำไปก่อน และอีกสองสัปดาห์ ก็จะออกแพ็คเกจท่องเที่ยวออกมา ทั้งการขยายเวลาการท่องเที่ยว และมาตรการทางภาษี จะเอาทยอยตามออกมา
ส่วนเรื่องเฟคนิวส์ เกี่ยวกับเหตุกราดยิงที่สยามพารากอน นักลงทุนกังวลหรือไม่นั้น นายเศรษฐา ระบุว่า เรื่องของเฟคนิวส์ คนเหล่านี้สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้ว่าอะไรเป็นจริงหรือไม่จริง ส่วนเหตุการณ์ที่สยามพารากอน เขามองว่าน่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ถ้าเราสามารถป้องกันการลอกเลียนแบบได้ เขาก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่สุดความสามารถ และสุดวิสัย ซึ่งไม่น่าจะส่งผลต่อระยะยาว .-สำนักข่าวไทย