เปิดศูนย์เฉพาะกิจ 15 วัน ให้นายจ้างยื่นเรื่องขอจ้างแรงงานต่างด้าวที่ยังไม่มีเอกสาร 24 ก.ค.-7 ส.ค.นี้

 กระทรวงแรงงาน  7 ก.ค.      กระทรวงแรงงาน เปิดศูนย์เฉพาะกิจ 15 วัน ให้นายจ้างยื่นเรื่องขอจ้างแรงงานต่างด้าวที่ยังไม่มีเอกสาร ย้ำหากพบ จนท.แอบอ้างเรียกรับเงินโทษแรงถึงไล่ออก


  

 นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงแนวทางปฏิบัติการจ้างแรงงานต่างด้าวช่วงผ่อนผันพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 สำหรับแรงงาน 3 สัญชาติ คือลาว กัมพูชา และเมียนมา ที่ทำงานในกลุ่มกรรมกรและทำงานบ้านในประเทศไทยขณะนี้แต่ยังไม่มีเอกสาร ให้นายจ้างติดต่อที่ศูนย์รับแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว ซึ่งจะเปิดระหว่างวันที่ 24 ก.ค.-7 ส.ค.นี้เท่านั้น โดยนำสำเนาบัตรประชาชนของนายจ้างหรือผู้รับมอบอำนาจ พร้อมรูปถ่ายของลูกจ้างต่างด้าวขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป ยื่นคำขอจ้างคนต่างด้าว โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จากนั้นเจ้าหน้าที่จะพิจารณาคัดกรองว่าเป็นนายจ้างลูกจ้างจริงหรือไม่แล้วจึงนัดรับใบรับรองการจ้างคนต่างด้าว ซึ่งในวันนัดรับนายจ้างต้องนำลูกจ้างต่างด้าวมารับเอกสารด้วยตนเอง หากเป็นลูกจ้างชาวกัมพูชาและลาวขณะนี้ต้องกลับไปดำเนินการพิสูจน์สัญชาติ ที่ประเทศต้นทาง ส่วนลูกจ้างชาวเมียนมา สามารถทำการพิสูจน์สัญชาติได้ที่ศูนย์พิสูจน์สัญชาติ 6ศูนย์ 5 จังหวัด คือสมุทรปราการ สมุทรสาคร ระนอง เชียงราย และตาก เมื่อได้รับเอกสารรับรองบุคคล หรือ CI แล้ว ให้ขอวีซ่าที่สำนักตรวจคนเข้าเมืองตรวจสุขภาพแล้วจึงทำเรื่องขอใบอนุญาตทำงานที่สำนักงานจัดหางาน เสียค่าธรรมเนียม 1,000 บาท ยกเว้นผู้ที่มีบัตรสีชมพูจะเสียค่าธรรมเนียม 450 บาท


 ส่วนแรงงานต่างด้าวที่ตรวจสัญชาติแล้ว และได้เอกสารรับรองบุคคล(CI)จากประเทศต้นทาง ตรวจลงตราวีซ่าทำงานแล้ว แต่ยัง ไม่ได้ยื่นขออนุญาตทำงาน ได้ขยายเวลาสำหรับแรงงานในกิจการทั่วไป สามารถขอใบอนุญาตทำงานได้จนถึงวันที่ 31 มี.ค.61 ส่วนแรงงานในกิจการประมงและแปรรูปสัตว์น้ำสามารถขอได้ถึงวันที่ 1 พ.ย.60 เพื่อบรรเทาการขาดแคลนปัญหาการขาดแคลนแรงงาน  ส่วนผู้ที่แรงงานต่างด้าวที่มีบัตรสีชมพูหรือใบอนุญาตทำงานแต่ไม่ตรงนายจ้างสถานที่ให้ติดต่อของแก้ไขได้ทันทีที่สำนักงานจัดหางาน  ทั้งนี้หากพบเจ้าหน้าที่รัฐอาศัยรีดไถข่มขู่หรือเรียกรับเงินให้แจ้งมาที่กระทรวงแรงงานเพื่อดำเนินการสอบสวนหากพบว่ากระทำความผิดจริงจะมีโทษรุนแรงไล่ออกจากราชการและถูกดำเนินคดีอาญาเพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีเอาเปรียบประชาชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง