กทม.6 ก.ค.- ผบช.น.ลั่นเอาผิดเฉียบขาด 4 ชายฉกรรจ์ทำร้ายตำรวจ สน.สายไหมจนสลบและอาละวาดในโรงพักไม่ต่ำ 5 ข้อหา ฟากผู้ต้องหาอ้างตำรวจเริ่มก่อน
เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นคืนวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยตำรวจ สน.สายไหมได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างเด็กปั๊มและผู้จัดการปั๊ม กับกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คน เรื่องห้ามสูบบุหรี่ในปั๊ม ย่านสายไหม ดาบตำรวจธวัช สายเสมอ ผบ.หมู่ ป. สน.สายไหม จึงไประงับเหตุ ก่อนยึดกุญแจรถกระบะแต่กลับถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายจนสลบและโทรศัพท์มือถือหาย ก่อนกล่มชายฉกรรจ์จะหลบหนี ตำรวจจึงนำกำลังติดตามจับกุมและควบคุมตัวมา สน.สายไหม เมื่อมาถึงนายโสภณ โกสินทร์ อายุ 36 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาลักษณะมึนเมาเห็นกระจกหน้ารถตัวเองแตก จึงไม่พอใจ อาละวาดด่าทอตำรวจ ทำลายทรัพย์สิน ซึ่งขณะนั้นมีเจ้าหน้าอาสาจำนวนหนึ่งพยายามช่วยระงับเหตุ แต่กลับมีเหตุชกต่อยกันหน้า สน.และบน สน. ตำรวจจึงขอกำลังทหารมาช่วยระงับเหตุนั้น
วันนี้(6 ก.ค.) พลตำรวจโทศานิย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมา สน.สายไหม ติดตามคดีพร้อมกล่าวว่า ได้สอบถามมูลเหตุ พฤติกรรมต่างๆตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย กรณีนี้ ต้องแยกเป็นสองส่วน แบ่งเป็นคดีที่ตำรวจตกเป็นผู้เสียหายจากถูกทำร้ายร่างกาย และกรณีฝ่ายนายโสภณ คิดว่าได้รับความเสียหาย ส่วนตัวขอชื่นชมความอดทนอดกลั้นของตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ที่ยึดหลักตามกฎหมาย ยอมรับกรณีนี้ ตำรวจอาจถูกมองว่า เป็นผู้ลงมือกระทำก่อน จากที่ถูกสังคมมองในแง่ไม่ดีอยู่แล้ว จึงขอให้เป็นอุทาหรณ์ ให้ตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนเสียก่อน ยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 4 คนอย่างเฉียบขาด โดยเบื้องต้นถูกตั้งข้อหา ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน, ดูหมิ่นเจ้าหน้าที่พนักงาน, ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่, ข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ประทุษร้าย และอาจเพิ่มข้อหาลักทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์ด้วย
พันตำรวจเอกธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว ผู้กำกับการ สน.สายไหม ยืนยันไม่มีตำรวจทำร้ายนายโสภณแต่อย่างใด หากประสงค์จะร้องทุกข์ก็พร้อมให้ความเป็นธรรม หลังเกิดเหตุกลุ่มนายโสภณ ไม่ยินยอมให้ตรวจเลือด หรือปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด แต่ยอมให้เป่าวัดแอลกอฮอล์ หลังถูกควบคุมตัวแล้ว ไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ จึงเชื่อว่า น่าจะเป็นสารเสพติดประเภทอื่นที่ไม่ใช่สุรา
ด้านดาบตำรวจธวัช เล่าว่า เมื่อได้รับแจ้งเหตุก็เดินทางไป เห็นผู้ต้องหากำลังจะขับรถออกจากปั๊มจึงเข้าไปดึงกุญแจออกแต่กลับถูกกลุ่มผู้ต้องหาต่อยและรุมทำร้ายจนสลบ พร้อมชี้ให้ดูรอยคิ้วขวาแตกบนใบหน้าและคอเคล็ด
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้เรียกเจ้าของปั๊มและเด็กปั๊ม ที่เห็นเหตุการณ์ ประมาณ 5 คนมาสอบถามข้อเท็จจริง ต่างยืนยันว่า ไม่ได้เข้าข้างตำรวจ เล่าตามความจริง และไม่มีเด็กปั๊มคนใดพูดจาดูถูกหรือต่อว่าผู้ต้องหา แต่กลับถูกท้าทายและต่อว่าหลังตักเตือนเรื่องสูบบุหรี่ในปั๊ม ซึ่งเจ้าของปั๊มจะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ในข้อหาทำร้ายร่างกาย
ส่วนหนึ่งในผู้ต้องหา ยืนยัน เหตุการณ์ในปั๊มตำรวจเป็นฝ่ายเริ่มก่อนมากร่าง ถึงตนอาจจะเดินเท่ไปหน่อยแต่ไม่ได้กระทืบใคร ขณะที่ญาติของผู้ต้องหา อ้างว่าผู้กำกับ สน.สายไหม ไม่มีการสั่งการใดๆในการระงับเหตุ กลับปล่อยให้ผู้ต้องหาถูกทำร้ายร่างกายใน สน.
จากการตรวจสอบประวัตินายสิทธิชัย โสลุน,นายรัตนเทพ ชัยปราณีเดช, นายปกรณ์ ชูวงศ์ และนายโสภณ โกสินทร์ ผู้ต้องหา พบว่า นายโสภณ มีประวัติ เมาสุราและทำลายทรัพย์สิน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ และเป็น”แก๊งยันหว่าง” อันธพาล ย่านคลองสี่.-สำนักข่าวไทย