กรุงเทพฯ 6 ก.ค.- น้องบีม พร้อมทนายนำหลักฐานยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายต่อศาลแพ่ง หลังถูกนายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ ทนายความอาสาฉ้อโกงเงินสินไหมทดแทน
นายวัชณ์ธิป แสดงมณี ทนายความอาสา พร้อมทั้งทนายความจากเนติบัณฑิตยสภา เดินทางมาที่ศาลแพ่งพร้อมกับนางสาวพรทิพย์ จันทรัตน์ มารดา และน้องบีม เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจากนายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ ทนายความคู่กรณีเป็นเงิน 3.4 ล้านบาท จากกรณีการโกงเงินสินไหมทดแทนจากการเกิดอุบัติเหตุจนทำให้บิดาของน้องบีมเสียชีวิต ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จ่ายเงินให้กับน้องบีมและมารดาเพียง 2 แสนกว่าบาทเท่านั้น โดยหลักฐานที่นำมายื่นเป็นคำร้องขอความช่วยเหลือทางคดีจากเนติบัณฑิตยสภาและสภาทนายความเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ เอกสารสัญญา และหนังสือมอบฉันทะที่ให้นายนายพิสิษฐ์ ดำเนินการเรื่องเงินค่าสินไหมทดแทนจากอุบัติเหตุให้ ในข้อหาผิดสัญญาตัวแทนและรับสภาพหนี้สิน แม้ว่าตัวของผู้ต้องหาจะเคยถูกฟ้องล้มละลายเมื่อปี 2548 แต่จากการตรวจสอบพบว่า พ้นสภาพจากการเป็นบุคคลล้มละลายเมื่อปี 2552 จึงไม่มีผลกับการดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายวันนี้ แต่จะต้องไปตรวจสอบทรัพย์สินของนายพิสิษฐ์ จะสามารถนำมาชดใช้ให้กับผู้เสียหายได้หรือไม่
สำหรับคดีอาญา อยู่ระหว่างการพิจารณา ว่าจะมีข้อกฎหมายใดที่ยังจะสามารถฟ้องร้องได้อีกหรือไม่ ส่วนคดีทางแพ่งศาลจะนัดให้มาไต่สวนนัดแรกในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ เวลา 09.00 น.
นอกจากนี้จะยื่นคำร้องให้ศาลแพ่งยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล มูลค่ากว่า 6 หมื่นบาท โดยนำหลักฐานยื่นพร้อมคำร้องคือ ใบมรณะบัตรบิดาที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุของน้องบีม , บัตรประจำตัวผู้พิการระดับ3, และใบรับรองรายได้ มายื่นให้กับศาล ทั้งนี้คาดว่าภายในวันนี้จะทราบผลว่าศาลแพ่งจะยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลให้บางส่วน
ด้านมารดาของน้องบีม เปิดเผยว่า ตั้งแต่เป็นข่าวจนถึงขณะนี้นายพิสิษฐ์ยังไม่ได้ติดต่อเข้ามาพูดคุยในเรื่องคดีหรือการชดเชยค่าเสียหายต่างๆ ทั้งที่ตนเองต้องรับผิดชอบรายจ่ายภายในบ้านและการดูแลลูก ทั้งนี้ยืนยันว่าตนเองมีความจำเป็นที่จะต้องขอให้ศาลแพ่งยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลให้เนื่องจากรายได้ที่เข้ามาในแต่ละเดือนมาจากการขายของจากน้องบีมทางเดียว ซึ่งไม่เพียงพอที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมศาลได้ ทั้งนี้คาดหวังว่าศาลจะเมตตาลดค่าธรรมเนียมศาล หรือยกเว้นค่าธรรมเนียมให้.-สำนักข่าวไทย