สหรัฐอเมริกา 21 ก.ย. -รมว.ต่างประเทศ ชู 3 ข้อ ป้องกัน เตรียมพร้อม และตอบสนองต่อโรคระบาด พร้อมเรียกร้องให้โลกลงทุนมากขึ้นเพื่อส่งเสริมหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมระดับสูงว่าด้วยการป้องกัน การเตรียมความพร้อม และการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ (PPPR) ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ และได้ร่วมกล่าวถ้อยแถลงโดยระบุว่าโรคโควิด19 เป็นหนึ่งใน “วิกฤตที่มีหลากหลายมิติ” ที่ร้ายแรงที่สุดในยุคปัจจุบัน และกล่าวถึงแนวทางสำคัญ 3 ข้อที่โลกต้องเร่งดำเนินการในลำดับต้นเพื่อยกระดับ PPPR คือการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทั้งในช่วงเวลาปกติและภาวะฉุกเฉิน เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าระบบสุขภาพจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ มีมาตรการคุ้มครองทางสังคมความยุติธรรมทางสังคม รวมทั้งความเท่าเทียมด้านสุขภาพ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ประชาคมระหว่างประเทศควรเร่งปฏิรูปโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมด้านสาธารณสุขของโลกให้มีความเท่าเทียม ครอบคลุมทุกกลุ่มประชากร และมีความสอดคล้องกับข้อริเริ่มอื่น ๆ ผ่านการเสริมสร้างขีดความสามารถ ความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบบสุขภาพดิจิทัล การเจรจาตราสารระหว่างประเทศว่าด้วยการระบาดใหญ่ และการปรับแก้กฎอนามัยระหว่างประเทศ ค.ศ. 2005 ภายใต้องค์การอนามัยโลก และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเพิ่มความร่วมมือด้านการพัฒนาสำหรับ PPPR ซึ่งจำเป็นต่อความมั่นคงด้านสุขภาพของโลก ด้วยวิธีการที่เป็นนวัตกรรม รวมถึงผ่านการแบ่งปันสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับสุขภาพผ่านการดำเนินงานระหว่างประเทศภายใต้ข้อริเริ่ม COVID-19 Technology Access Pool (C-TAP)
สำหรับการประชุมครั้งนี้มีผู้แทนระดับสูงเข้าร่วมจำนวนมาก อาทิ ผู้นำประเทศ ผู้แทนระดับรัฐมนตรี ผู้สังเกตการณ์สมัชชาสหประชาชาติและระบบสหประชาชาติ องค์กรพัฒนาเอกชน และองค์กรด้านสุขภาพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มแรงสนับสนุนทางการเมืองในงานเกี่ยวกับการเสริมสร้างขีดความสามารถของโลกในเรื่อง PPPR รวมทั้งการเจรจาตราสารระหว่างประเทศว่าด้วยการระบาดใหญ่ในกรอบองค์การอนามัยโลก และนับเป็นเวทีสำหรับประเทศไทยในการยืนยันความมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศในการยกระดับ PPPR ของโลก นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังได้รับรองปฏิญญาทางการเมืองว่าด้วย PPPR ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ประชาคมระหว่างประเทศมีความสมานฉันท์และพร้อมที่จะทำงานร่วมกันบนพื้นฐานของความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือระหว่างกันเพื่อประโยชน์สาธารณะ.สำนักข่าวไทย