กรุงเทพฯ 2 ก.ค.-องอาจแนะรัฐบาลเร่งคุยเพื่อนบ้าน ลดกระบวนการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่เข้มงวดห้ามหาประโยชน์จากกม.
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีรัฐบาลออกพระราชกำหนดการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว พ.ศ.2560 ซึ่งมีบทลงโทษที่สูงเกินไปและเกิดผลกระทบอย่างกว้างขวางในภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ จนรัฐบาลต้องใช้คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ตามมาตรา 44 ผ่อนปรนการบังคับใช้กฎหมายออกไปอีก 120 วันในมาตรา 101, 102 และ 122 เพื่อให้แรงงานต่างด้าวขอใบอนุญาตให้ถูกต้อง ว่า ถ้ารัฐบาลจัดให้มีศูนย์จดทะเบียนแรงงานต่างด้าวในไทยน่าจะเป็นทางออกที่ดี แต่รัฐบาลได้ยืนยันว่าจัดตั้งไม่ได้ เพราะขัดต่อบันทึกความเข้าใจ(เอ็มโอยู) กับสธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) เมียนมาและกัมพูชา รวมถึงพันธะสัญญาการทำประมงผิดกฎหมาย (ไอยูยู) ซึ่งจะทำให้แรงงานต่างด้าวทะลักเข้าไทย
“ผมมีความกังวลว่าแรงงานต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งมีจำนวนมากนับล้านคนจะดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายภายในระยะเวลา 120 วันได้ทันหรือไม่ เพราะแรงงานต่างด้าวเหล่านี้ต้องกลับไปประเทศของตนเพื่อทำเรื่องและผ่านเข้าสู่กระบวนการอย่างถูกต้อง ซึ่งอาจต้องใช้เวลา 1 – 2 เดือน และมีค่าใช้จ่ายประมาณคนละ 20,000 บาท” นายองอาจ กล่าว
นายองอาจ กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลควรดำเนินการขณะนี้ คือเร่งเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อลดขั้นตอนในกระบวนการเข้าสู่ระบบแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฎหมาย รวมทั้งเร่งเจรจาแก้ไขกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อขจัดข้อยุ่งยาก และระยะเวลาการดำเนินการให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้แรงงานต่างด้าวที่ทำงานในไทยอยู่แล้วสามารถกลับเข้ามาทำงานกับนายจ้างคนเดิมได้ เพราะถ้าต้องดำเนินการตามกฎหมายและต้องใช้เวลา 1-2 เดือน นายจ้างอาจไม่สามารถรอได้ และงานบางประเภทไม่มีคนไทยสนใจจะทำ
“รัฐบาลต้องเข้มงวดไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกหน่วยงานหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้กฎหมายตามพ.ร.ก.ฉบับนี้ เพราะถ้าปล่อยปละละเลยให้หาประโยชน์จากแรงงานต่างด้าวและนายจ้าง จะยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายขึ้น เนื่องจากขณะนี้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจอยู่แล้ว” นายองอาจ กล่าว.-สำนักข่าวไทย