DSI บุกจับขบวนการจัดหาหญิงไทยอุ้มบุญ

กทม. 1 ก.ย.- DSI บุกค้นสถานพยาบาล 3 แห่ง จับขบวนการลักลอบจัดหาหญิงไทยอุ้มบุญ ก่อนส่งเด็กออกนอกประเทศ


นายอัษฎาวุธ ศรีปิตา ผู้ช่วยโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ และร้อยตำรวจเอกทินวุฒิ สีละพัฒน์ ผอ.กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ แถลงความคืบหน้าในการดำเนินคดีพิเศษที่ 236/2565 กรณี ขบวนการลักลอบจัดหาหญิงไทยเพื่อรับจ้างตั้งครรภ์แทน (อุ้มบุญ) ให้กับผู้ว่าจ้างชาวต่างประเทศที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติในจังหวัดหนองคาย กรณี เด็กชายแทนไท (นามสมมุติ)

โดยเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สนธิกำลังร่วมกับ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ได้เข้าตรวจค้นสถานพยาบาล 3 แห่ง ได้แก่ จุดที่ 1 สถานพยาบาลย่านถนนงามวงศ์วาน เขตจตุจักร กทม. พบมีนายแพทย์ผู้ให้บริการเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ และเป็นแพทย์ประจำศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากในสถานพยาบาลดังกล่าว โดยได้ทำการตรวจร่างกายก่อนตั้งครรภ์และรับฝากครรภ์ และเป็นสถานที่คลอดบุตรแก่หญิงอุ้มบุญผิดกฎหมาย ในช่วงระหว่างปี 2561 – 2563 ผลการตรวจค้นพบประวัติ หญิงอุ้มบุญผิดกฎหมายจำนวนหลายราย


จุดที่ 2 สถานพยาบาลย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่าสถานพยาบาลแห่งนี้มีแพทย์ผู้ให้บริการเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้เข้าไปทำงาน Part time ในสถานพยาบาลแห่งนี้ ผลการตรวจค้นพบเอกสารข้อมูลไข่และตัวอ่อนในการดูแลของแพทย์ผู้ให้บริการในคดี

จุดที่ 3 สถานพยาบาลย่านถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน พบมีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับนายแพทย์ที่เกี่ยวข้องในคดี และมีหญิงอุ้มบุญมาตรวจร่างกายก่อนมีการไปฉีดตัวอ่อนที่ต่างประเทศ ผลการตรวจค้นพบหนังสือเดินทางของหญิงอุ้มบุญและเด็กที่ถูกอุ้มบุญและยังไม่ได้รับอนุญาตรับรองมาตรฐานให้บริการด้านเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์

จากนั้นช่วงเช้าวันที่ 28 สิงหาคม ได้สืบสวนสะกดรอยและการข่าว สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยปฏิบัติการพิเศษภูธรจังหวัดหนองคาย เข้าจับกุม นายสุเนตร ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2643/2566 ในข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและร่วมกันดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์
ทางการค้า และได้ทำการตรวจค้นบ้านพักของนายสุเนตร ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย โดยอาศัยอำนาจตามหมายค้นศาลจังหวัดหนองคาย ที่ ค.106/2566 พบบัญชีรายชื่อหญิงที่รับจ้างอุ้มบุญผิดกฎหมายและบัญชีรายได้จากการเป็นนายหน้าจัดหาหญิงมาทำหน้าที่อุ้มบุญ ซึ่งนายสุเนตร เป็นหนึ่งในขบวนการจ้างอุ้มบุญข้ามชาติที่มีหน้าที่จัดหาหญิงชาวไทยมารับจ้างอุ้มบุญให้ชาวต่างชาติ จนมีทรัพย์สินเป็นที่ดินกว่า 100 ไร่


ทั้งนี้ การอุ้มบุญสามารถทำได้หากได้รับการอนุญาตตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งมีเงื่อนไขเพื่อคนที่มีบุตรยากตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 แต่ห้ามไม่ให้ดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า หากฝ่าฝืน ทั้งตัวคนสั่งจ้าง นายหน้า นายแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ หญิงอุ้มบุญและผู้เกี่ยวข้องในขบวนการ ย่อมมีความผิดทางอาญาและต้องรับผิดตามกฎหมาย

ปัญหาการอุ้มบุญผิดกฎหมายก่อให้เกิดปัญหาสังคมหลายอย่าง ทั้งการเป็นตลาดการค้ามนุษย์ ซึ่งปลายทางของเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญ อาจถูกนำไปค้าอวัยวะ ค้าประเวณี หรืออุตสาหกรรมทางเพศ ในหลายกรณีที่เด็กเกิดมามีความบกพร่องทางร่างกาย ก็จะถูกทอดทิ้ง อย่างไร้มนุษยธรรม ล้วนแล้วแต่เป็นการกระทำที่กระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง กรมสอบสวนคดีพิเศษมุ่งมั่นกระทำการตามกรอบอำนาจหน้าที่เพื่อต่อต้านขบวนการอุ้มบุญที่ผิดกฎหมายและดำเนินการกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดอย่างเด็ดขาด

ร้อยตำรวจเอกทินวุฒิ สีละพัฒน์ ผอ.กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า ในช่วงปี 2561 – 2563 มีเด็กที่เกิดจากขบวนการลักลอบอุ้มบุญดังกล่าว ประมาณ 100 คน ส่งออกไปให้ผู้ว่าจ้างกว่า 10 ประเทศ และมีเหลือตกค้างอยู่ในไทยแค่เพียง 7 คน ทั้งนี้หญิงไทยที่รับจ้างอุ้มบุญ ระหว่างตั้งท้องจะได้ค่าตอบแทนเดือนละ 10,000 บาท เมื่อคลอดได้เด็กออกมาแล้ว จะได้อีกรายละ 500,000 บาท ในส่วนของสถานพยาบาลที่กระทำผิดในคดีนี้ ทั้ง 3 แห่ง ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันในแง่ของความเป็นเจ้าของ แต่มีการใช้บุคลากรทางการแพทย์ร่วมกัน ขณะที่ความคืบหน้าทางคดี ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล เบื้องต้นยังมีนายหน้าอีก 2 ราย คือ นางนริศรา และนายพิเชษฐ์ ที่ยังหลบหนีอยู่ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่

เริ่มแล้ว ประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทงเชียงใหม่

ประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทง จ.เชียงใหม่ ปีนี้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีจากแสงไฟที่ประดับไปทั่วเมือง และความงดงามทางวัฒนธรรมมากมาย ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย

“จิราพร” สั่งตรวจสอบปมคลิปเสียงอ้างชื่อ-จ่อแจ้งความเอาผิด

“จิราพร สินธุไพร” ยืนยันไม่รู้จักนักร้องเรียนหญิง ที่แอบอ้างว่าเป็นคณะทำงาน ประสานฝ่ายกฎหมายเร่งตรวจสอบคลิปเสียง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าให้ปากคำปมถูกอ้างชื่อเรียกรับเงินบอส “ดิไอคอน”

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ให้ปากคำกรณีถูกแอบอ้างชื่อเรียกรับเงินผู้บริหาร “ดิไอคอน”