พังงา 26 ส.ค. – “เศรษฐา” นายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่ จ.พังงา รับฟังความคิดเห็นผู้ประกอบการท่องเที่ยว ขณะที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเสนอผลักดันพังงาเป็นเขตเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว เชื่อมโยงกับภูเก็ต
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะ เดินทางลงพื้นที่เขาหลัก จ.พังงา เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการท่องเที่ยว จ.พังงา หลังวานนี้ (25 ส.ค.) นายกรัฐมนตรีเดินทางลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการท่องเที่ยวในภูเก็ต
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า พังงาเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้ที่นั่ง สส.ต่อเนื่องกันมานานแล้ว อย่างไรก็ตาม การเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าจะไม่เป็นอุปสรรคในการทำงาน พังงาถือเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่มีความสำคัญไม่แพ้ภูเก็ต และหากพังงา ภูเก็ต กระบี่ ระนอง สามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยวถึงกันได้จะทำให้เพิ่มศักยภาพทางการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม จะต้องมองถึงเรื่องการเตรียมพร้อมบุคลากรและแรงงานให้เพียงพอรับกับการเติบโตทางการท่องเที่ยวด้วย โดยเฉพาะการพัฒนาฝีมือคุณภาพแรงงาน ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญและมีความจำเป็นต่อการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของประเทศไทยในภูมิภาคนี้
นายกรัฐมนตรียังพูดถึงการเดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจีน อินเดีย รวมถึงรัสเซีย ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ โดยตลาดท่องเที่ยวของภูเก็ตและพังงา มีความคล้ายคลึงกัน เช่นเดียวกับการขยายสนามบินภูเก็ตที่จะสร้างในพื้นที่ จ.พังงา
ด้านนายเลิศศักดิ์ ปนกลิ่น นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา ระบุว่า ทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวพังงา เสนอข้อมูลให้นายกรัฐมนตรี 2 เรื่อง คือ การเร่งพัฒนาระบบขนส่งมวลชน และการคมนาคม ให้เชื่อมโยงกับ จ.ภูเก็ต ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ โดยภาคเอกชนใน จ.พังงา รู้สึกยินดีที่รัฐบาลจะขับเคลื่อนการสร้างสนามบินใน จ.พังงา เพราะจะทำให้การท่องเที่ยวของพังงาเติบโตได้ดียิ่งขึ้น ปัจจุบันตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มที่เดินทางมายังพังงามีความคล้ายคลึงกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าภูเก็ต
ส่วนอีกประเด็นที่ภาคเอกชนเสนอขอให้รัฐบาลเร่งพิจารณาเป็นวาระเร่งด่วนคือ การกระตุ้นการท่องเที่ยว เช่นเดียวกับที่ภาคเอกชนในภูเก็ตเสนอ โดยเฉพาะการผ่อนปรนเรื่องวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวในบางประเทศ ให้สามารถเดินทางเข้ามายังประเทศไทยได้ง่ายและสะดวกขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากรัสเซีย จีน อินเดีย รวมถึงการขยายวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจากบางประเทศ เพื่อให้พำนักอยู่ในไทยได้นานขึ้น
ปัจจุบัน จ.พังงา มีโรงแรมที่พักที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้รวมทั้งสิ้นกว่า 18,000 ห้อง มีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ร้อยละ 40 .-สำนักข่าวไทย
