“สุพัฒนพงษ์-ส.อ.ท.” ประสานเสียงให้รัฐบาลใหม่เดินหน้าส่งเสริมอีวี

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- “สุพัฒนพงษ์-ส.อ.ท.” ประสานเสียงให้รัฐบาลใหม่เดินหน้าส่งเสริมอีวี แนะช่วงรอยต่อ กรมสรรพสามิต ขยายกรอบให้ส่วนลดพิเศษที่จะครบกำหนดสิ้น ก.ย.นี้

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังการเป็นประธานเปิดงาน SME GP Day ว่า ได้ขอให้กรมสรรพสามิต พิจารณาขยายกรอบการจดทะเบียนรถอีวีที่จะสิ้นสุดภายในสิ้นปี 2566 เพื่อให้ได้รับส่วนลด 1.5 แสนบาท/คัน ตามมาตรการ 3.0 ในช่วงรอยต่อระหว่างรอมาตรการอีวี 3.5 เพราะอาจจะทำให้ระดับราคารถเปลี่ยนแปลงไปในช่วงรอยต่อ ซึ่งในทางปฏิบัติหากมีเอกสารหลักฐานว่าได้ยื่นซื้อรถ EV แล้วก็ควรจะได้รับสิทธิประโยชน์การสนับสนุนจากมาตรการในราคาเดิมไปถึงสิ้นปี แม้ว่าจะนำเข้ามาจดทะเบียนไม่ทัน และขอเสนอให้รัฐบาลชุดใหม่สานต่อมาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า EV 3.5 ที่คณะรัฐมนตรีได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบในหลักการไปแล้ว ซึ่งกำหนดรายละเอียดของมาตรการ ทั้งการให้ส่วนลดราคารถยนต์อีวีนำเข้า การกำหนดให้ค่ายรถตั้งโรงงานผลิตอีวี รวมถึงการให้สิทธิประโยชน์กระตุ้นลงทุนตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่อีวี

“การให้ส่วนลดภาษีตามมาตรการ 3.5 ลดน้อยลงกว่าเดิม เพราะเทคโนโลยีพัฒนาไปมาก ทำให้ราคาและต้นทุนการผลิตก็ลดลง ประกอบกับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ยอดขายรถอีวีเพิ่มขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม เห็นว่ารัฐบาลใหม่อาจจะปรับเปลี่ยนในรายละเอียดของมาตรการส่งเสริม 3.5 ได้ ส่วนการลดค่าไฟฟ้า หากรัฐบาลใหม่จะดำเนินการ ก็สามารถทำได้” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

ทั้งนี้ มาตรการ EV 3.0 ที่รัฐบาลให้เงินอุดหนุนรถยนต์ EV 70,000-150,000 บาท/คัน และลดภาษีนำเข้า และภาษีสรรพสามิตต่างๆ ให้กับค่ายรถ EV ที่นำเข้ารถมาขายในประเทศไทย กำลังจะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.66 ซึ่งขณะนี้หลายฝ่ายมองว่าอาจจะมีผลทำให้อีวีปรับราคาขายรถให้สูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อผู้ซื้อ ในช่วงรอยต่อของมาตรการสนับสนุน 3.5 ที่ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่ยังไม่มีผลบังคับใช้

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า อยากให้รัฐบาลใหม่ส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในระยะที่ 2 หรือ EV 3.5 โดยด่วน เพราะ EV 3.0 จะสิ้นสุด ธ.ค.นี้แล้ว เพื่อให้การผลิตรถ EV ในประเทศไทยมากขึ้น รวมถึงแบตเตอรี่ และชิ้นส่วนต่างๆ และก้าวสู่ฮับในภูมิภาคอาเซียน จะได้ต่อยอดรถ ICE เพื่อไม่ให้การส่งออกของลดลงในอนาคต. -สำนักข่าวไทย