ขอนแก่น 23 ส.ค.- ชาวบ้านขาดแคลนน้ำทำนาอย่างหนัก ในพื้นที่บ้านกุดพังเครือ ม.6 อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ปีนี้ได้รับผลกระทบจากฝนทิ้งช่วง ทำให้ขาดน้ำในการปลูกข้าว ถ้าหากฝนไม่ตกภายในสิ้นเดือนนี้ ข้าวกว่า 3,000 ไร่ ทั้งหมู่บ้าน อาจได้รับความเสียหาย
ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ติดริมแม่น้ำพอง บ้านกุดพังเครือ ม.6 ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งผู้ใหญ่บ้านพาลงไปดูความเดือดร้อนของชาวบ้านในช่วงฤดูการทำนา หลังจากฝนทิ้งช่วงไม่ตกต้องตามฤดูกาล และทางเขื่อนอุบลรัตน์ลดการปล่อยน้ำออกจากเขื่อน ทำให้ชาวบ้านต้องช่วยกันออกเงินในการสูบน้ำจากแม่น้ำพองเข้าไปไว้ในหนองน้ำภายในหมู่บ้าน มีค่าใช้จ่ายตกวันละ 600 บาท จากนั้นต่อท่อส่งน้ำเข้าไปยังที่นาของตนเองในส่วนนี้จะต้องจ่ายเอง หลักๆ จะเป็นค่าน้ำมันเครื่องสูบน้ำ ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ชาวบ้านแต่ละรายจ่ายไปครัวเรือนละกว่า 10,000 บาทแล้ว ยังไม่รวมค่าเพาะปลูก เช่น ปุ๋ย
ด้านนายเกียรติศักดิ์ วงนิยม ผู้ใหญ่บ้านกุดพังเครือ ม.6 ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ได้ให้ข้อมูลว่า ชาวบ้านลำบากมาก เนื่องจากฝนทิ้งช่วงตั้งแต่เดือนมิถุนายน และสูบน้ำจากลำน้ำพองเข้ามาในหมู่บ้าน เข้าใจสถานการณ์ภัยธรรมชาติทำให้ขาดน้ำในการทำเกษตร แต่สิ่งที่ชาวบ้านสงสัยคือ การบริหารจัดการน้ำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าดำเนินการอย่างไร ในช่วงฝนตกหนักในปลายปีที่ผ่านมาปล่อยน้ำออกมาให้ท่วมที่นา เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนมากเกรงว่าจะกักเก็บไม่ไหว พอฤดูแล้งก็บอกว่าน้ำมีปริมาณไม่พอทำการเกษตร
ทั้งนี้ หมู่บ้านกุดพังเครือ ม.6 ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น มีประชากรทั้งหมด 769 คน พื้นที่ทำการเกษตรปลูกข้าว 3,000 ไร่ ซึ่งในปี 2562 เคยประสบปัญหาภัยแล้ง แต่ยังไม่หนักเท่าปีนี้ และชาวบ้านในพื้นที่ต้องการเครื่องสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มเติมในการสูบน้ำเพื่อทำการเกษตร และกำลังจะเจรจาเพื่อไปขออนุญาตหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป และอยากให้ช่วยทำฝนหลวงด้วย เพื่อเป็นการเติมน้ำให้เขื่อนอุบลรัตน์.-สำนักข่าวไทย