กทม. 9 ส.ค.- ผบ.ตร. มอบรางวัลแก่นักเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศในการแข่งขันการประนอมข้อพิพาทในระดับนานาชาติ
วันนี้ (9 ส.ค.66) เวลา 15.00 น. ที่ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี มีรางวัล” แก่นักเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ จำนวน 4 นาย
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า สำหรับโครงการ “ทำดี มีรางวัล” นั้นเป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจและประชาชนที่ประกอบคุณงานความดี มีจิตสาธารณะจนเป็นที่ยอมรับของสังคม สร้างชื่อเสียงให้กับหน่วยงาน และกรณีนี้ก็เป็นการมอบรางวัลให้แก่นักเรียนนายร้อยตำรวจจำนวน 4 นาย ที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศจากการแข่งขันการประนอมข้อพิพาทระดับนานาชาติ
โดย ระหว่างวันที่ 19-21 ก.ค.66 ที่ผ่านมา สถาบันอนุญาโตตุลาการ ได้จัดการแข่งขันการประนอมข้อพิพาทระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นการแข่งขันเจรจาข้อพิพาทในสถานการณ์จำลองเชิงพาณิชย์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจได้ส่งทีม THAC RPCA ซึ่งประกอบด้วยนักเรียนนายร้อยตำรวจจำนวน 4 นาย ได้แก่
- นรต.ณัฏฐกิตติ์ โตทัพ
- นรต.ประวันวิทย์ จำปีทอง
- นรต.ธีรพัฒน์ บูชารัมย์
- นรต.กรธน ชิงดวง
เข้าร่วมการแข่งขันเป็นครั้งแรกในระดับนานาชาติ ซึ่งจากการแข่งขันทุกครั้งที่ผ่านมาไม่มีทีมจากประเทศไทยเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งผลการแข่งขันครั้งนี้ปรากฏว่า ทีม THAC RPCA ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ และได้รับคำชื่นชมจากคณะกรรมการ คณะผู้จัดการแข่งขัน ตลอดจนผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากชาติอื่นเป็นอย่างมาก สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งในระดับประเทศ และในระดับนานาชาติ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาแล้วเห็นว่า นักเรียนนายร้อยตำรวจ ทั้ง 4 นาย สมควรได้รับการเชิดชูเกียรติ ยกย่องสรรเสริญตามโครงการ “ทำดีมีรางวัล” เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคมสืบไป
ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า “ตนขอชื่นชมในความรู้ความสามารถที่นำไปต่อยอดจนสามารถสร้างชื่อเสียงให้แก่องค์กรได้ ตนจึงได้มอบใบประกาศเกียรติคุณและรางวัลตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” และเงินรางวัล 10,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่จะมอบรางวัลให้กับข้าราชการตำรวจหรือประชาชนที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน ประกอบคุณงามความดี ช่วยเหลือประชาชน หรือทางราชการ ประพฤติตนดี คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมและช่วยเหลือประชาชนจนเป็นที่ยอมรับต่อสังคม” .-สำนักข่าวไทย