20 พ.ย. – รอง ผบช.รร.นรต.สั่งสอบปมฉาว อาจารย์โรงเรียนนายร้อยกับเพื่อนตำรวจ ล่วงละเมิดทางเพศลูกศิษย์ จ่อปลดพ้นอาจารย์ ด้าน สน.สังกัดนครบาล ยอมรับนายตำรวจ ต. เป็นคนเรียบร้อยสะอาดหน้าตาดี แต่ชอบจับก้นและหน้าอกเพื่อนตำรวจด้วยกันมานานแล้ว
จากรณีเพจโซเชียลโพสต์ แฉพฤติกรรมอาจารย์โรงเรียนายร้อยตำรวจสามพราน และเพื่อนตำรวจ กระทำล่วงละเมิดทางเพศลูกศิษย์รายหนึ่ง
พลตำรวจตรีศักดิ์รพี เพรียวพานิช รองผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ หรือ รร.นรต. ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ทราบเรื่องตั้งแต่วันเกิดเหตุโดยเป็นเรื่องที่เด็กนักเรียนไปปรึกษาตำรวจระดับผู้หมวด ซึ่งได้สั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เบื้องต้น มีเด็กนักเรียนชั้นปีที่1 ถูกกระทำสองคนอ้างว่าเกรงใจรุ่นพี่ ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ 1 และอีกคนเป็นคนนอก อยู่ระหว่างการตรวจสอบยังไม่ได้ยืนยันแน่ชัดว่าเป็นบุคคลใดและเป็นเพื่อนตำรวจจริงหรือไม่ แต่ย้ำว่าเรื่องนี้อยู่ที่เจตนาของเด็กนักเรียนทั้งสองว่าจะเอาเรื่องหรือไม่ เพราะบรรลุนิติภาวะแล้วโดยเด็กขอปรึกษาผู้ปกครองก่อน ซึ่งคดีอนาจารเป็นความผิดที่ยอมความกันได้ และเด็กสองคนที่ถูกกระทำบรรลุนิติภาวะแล้ว จึงให้ตัดสินใจเองว่าจะเอาเรื่องหรือไม่เอาเรื่อง หากตัดสินใจเอาเรื่องก็ต้องถูกดำเนินคดี ส่วนคนที่กระทำหากตรวจพบว่าเป็นอาจารย์จริงก็ต้องถูกถอดถอนเพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่าง ยอมรับว่าเรื่องนี้ทำให้เกิดควมเสียหายต่อภาพลักษณ์ของโรงเรียนนายร้อยตำรวจและองค์กรตำรวจ
กรณีดังกล่าวหากเด็กดำเนินคดี หรือดำเนินคดีไปแล้วมีการยอมความกัน ก็จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและต้องงดเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือถอดถอนการเป็นอาจารย์ ซึ่งการทำอนาจารเด็กเป็นเรื่องส่วนตัวและอ้างว่าเด็กรู้จัก ขณะที่เด็กนักเรียนบอกว่าเห็นเป็นรุ่นพี่ด้วยความเกรงใจจึงยอมทำตาม เบื้องต้น ตนเองได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.จิรชาติ เจริญศรี ผู้บังคับการปกครอง โรงเรียนนายร้อยตำรวจดำเนินการเรียกทั้งสองฝ่ายมาสอบถามโดยและมอบแนวทางการทำงานแล้ว ย้ำว่าใครผิดก็ต้องว่าไปตามผิด
ส่วนที่ช่วงนี้มีข่าวฉาวของอาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจบ่อยนั้น ทางโรงเรียนฯ ได้มีการประชุมสั่งการเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องตลอด เพราะเป็นเรื่องที่ป้องกันได้แต่ห้ามไม่ให้เกิดไม่ได้ โดยเฉพาะสมัยนี้สังคมเปิดกว้างและLGBTQก็เป็นที่ยอมรับในสังคม แต่การกระทำที่เปิดเผยมากเกินไปและมีการกระทำกันในรั้วโรงเรียนสถาบันหลักต้นแบบของตำรวจ เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ตนเองในฐานะที่เป็นตำรวจและเติบโตมาจากการทำงาน ไม่ใช่นักวิ่งเต้น ไปอยู่ที่ไหนก็ตั้งใจทำงานพยายามกวดขันวินัย อยากเห็นองค์กรเดินให้ตรงทาง อยากให้ทุกคนรู้หน้าที่และปฎิบัติหน้าที่ได้ทุกตำแหน่งตามที่ได้รับมอบหมาย กรณีที่เกิดขึ้นก็ต้องแก้ไขไม่มีความจำเป็นต้องปกปิดหรือซุกไว้ใต้พรม เพราะสุดทายแล้วความจริงก็ต้องเปิดเผยและจะยิ่งส่งผลเสียต่อองค์กร
ทั้งนี้ มีรายงานว่าสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้ก่อเหตุเป็นนายตำรวจยศ พ.ต.ต. (นรต.รุ่น66) ในฐานะที่เป็นอาจารย์ รร.นรต.กับนายตำรวจยศ พ.ต.ต. ตำแหน่ง พนักงานสอบสวนพื้นที่นครบาล ซึ่งเป็นเพื่อนนักเรียนนายร้อยรุ่นเดียวกัน โดยมีรายงานว่าตำรวจทั้งสองนายได้ใช้ความเป็นรุ่นพี่ที่มีทั้งชั้นยศและมีค่านิยมปลูกฝังกันมาว่ารุ่นน้องต้องกลัวรุ่นพี่ทำให้เกิดความเกรงกลัวและปฏิบัติตามทั้งที่เป็นคำสั่งที่ผิดทั้งวินัยและอาญา โดยมีนักเรียน นรต.ตกเป็นเหยื่อหลายนายและก่อนหน้านี้ผู้บังคับบัญชามีการเรียกไปตักเตือนแต่ยังไม่เลิกพฤติกรรมทำให้หวาดเกรงต่อนักเรียน นรต.จำนวนมาก แต่ต้องยอมรับว่าเพศสภาพ LGBTQ เป็นที่ยอมรับและมีกฎหมายยอมรับ แต่เรื่องความไม่เหมาะสมและวินัย อีกทั้งเป็นสถานที่สร้างตำรวจกลับต้องมาเป็นสถานหวาดกลัวกับต้นแบบตำรวจ.-416-สำนักข่าวไทย