นายกฯ ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยเหตุโกดังพลุระเบิด

บน.6 /4 ส.ค.- นายกฯ ลงพื้นที่ จ.นราธิวาส เยี่ยมผู้บาดเจ็บ-ครอบครัวผู้เสียชีวิต เหตุโกดังพลุระเบิด ยืนยันมีงบดูแลอยู่ พร้อมมอบคณะกรรมการเคาะงบเพิ่มเติม ปัดตอบการเมือง หลังถูกถามตั้งรัฐบาลไม่จบ รวมถึงสมการมีชื่อ “บิ๊กป้อม” เป็นนายกฯ


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนราธิวาส ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามสถานการณ์เหตุโกดังเก็บพลุระเบิด ที่จังหวัดนราธิวาส พร้อมกับตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชน และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน

นายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนลงพื้นที่ว่า ขอแสดงความเสียใจ กับครอบครัวผู้ที่สูญเสีย และผู้ที่บาดเจ็บ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับผู้ป่วยไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้จะไปดูในพื้นที่ด้วยตัวเอง เพราะที่ผ่านมา แม้จะมีภารกิจอยู่หลายอย่างแต่ได้มอบหมายให้พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปดูพื้นที่ก่อนหน้านี้ พร้อมกับสรุปรายงานเข้ามาให้ทราบ ทั้งเรื่องการเยียวยา การฟื้นฟู การดำรงชีวิตของประชาชน ซึ่งทุกคนทำงานอย่างแข็งขัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าวันนี้จะต้องไปดูการเยียวยาและจะแก้ไขปัญหาได้อย่างไร โดยเฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้น ในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยมีงบประมาณในส่วนของราชการอยู่แล้วส่วนหนึ่ง อีกส่วนคืองบจากกองทุนบริจาคของสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำลังจะให้มีการประชุมว่าจะสามารถปรับแก้ เพิ่มเติมส่วนใดได้บ้าง ทั้งบ้านเรือนที่อยู่อาศัย และดูแลในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานที่เสียหายไปด้วยในพื้นที่บริเวณกว้างจะทำอย่างไร และให้ประชาชนออกมาใช้ชีวิตตามปกติให้เร็วที่สุด พร้อมยืนยันว่า งบประมาณต่างๆ มีอยู่แล้ว ตามระเบียบ และกำลังให้คณะกรรมการ เร่งพิจารณาเพิ่มเติมให้

ส่วนประเด็นการเมือง โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้า รวมถึงสมการที่มีกระแสข่าวว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป รวมถึงได้มีการพูดคุยกับพลเอกประวิตรหรือไม่ โดยทันทีที่ได้ยินคำถาม นายกรัฐมนตรี ได้เดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที และระบุว่า “เรื่องการเมือง ไม่เอา”


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภารกิจการตรวจเยี่ยมของนายกรัฐมนตรีในวันนี้ จุดแรกจะเดินทางไปยังพื้นที่เกิดเหตุโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด ที่ตำบลบ้านมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก เพื่อตรวจดูสถานการณ์ และติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างบ้านผู้ที่ได้รับความเสียหาย จากนั้นจะไปเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมกับมอบเงินเยียวยาให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่โรงเรียนบ้านมูโนะ ตำบลบ้านมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก และไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บ ที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ เวลาประมาณ 12.45 น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน