ผนึกกำลัง 3 สส. “กล้าธรรม-ภูมิใจไทย” ปราศรัยขอปิดสวิตช์คู่แข่ง

นราธิวาส 26 ม.ค.-สนามท้องถิ่นนราธิวาส เดือด​ 3 สส. “กล้าธรรม-ภูมิใจไทย” ผนึกกำลังปราศรัย ขอปิดสวิตช์คู่แข่ง ฟาด 25 ปีไร้การพัฒนา ชูหากเปลี่ยนเลือกให้ “อับดุลลักษณ์ สะอิ” นั่งนายก อบจ.คนใหม่ มีพร้อมนโยบาย 5 ด้านฟื้นเศรษฐกิจ พัฒนาบ้านเมืองทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การปราศรัยและแสดงวิสัยทัศน์ของนายอับดุลลักษณ์ สะอิ ( แบเลาะห์ )ผู้สมัครนายก อบจ.นราธิวาส หมายเลข 2 ณ สนามกีฬาเทศบาลรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อคืนวันที่ 25 ม.ค. มีไฮไลท์ สำคัญ คือ สส.จากหลายเขต และต่างพรรคการเมือง พร้อมใจร่วมขึ้นปราศรัยขอคะแนนให้ นายอับดุลลักษณ์ สะอิ อย่างคึกคัก​คือ 2 สส.จากพรรคกล้าธรรม นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ และนายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รวมถึงนายซาการียา สะอิ สส.พรรคภูมิใจไทย ในฐานะน้องชายนายอับดุลลักษณ์ นอกจากนั้น ยังมีแกนนำพรรค เช่น นายนัจมุดดีน อูมา อดีต สส.นราธิวาสหลายสมัย และเครือข่ายนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ อาทิ นายไพซอล อาแว นายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาสร่วมด้วย


นายอับดุลลักษณ์ กล่าวกับประชาชนว่า จังหวัดนราธิวาสต้องเปลี่ยนให้ได้ และมั่นใจเพราะจากการพบปะกับชาวบ้าน มีการตอบรับที่ดี เราจะมาเปลี่ยนนราธิวาสไปด้วยกัน พร้อมจะผลักดันนโยบาย 5 ข้อ คือ 1.ร่วมพัฒนาแผนพัฒนาทุก 2.จะทำเวทีประชาคมของทุกอำเภอ เพื่อรับทราบปัญหาโดยตรงและแก้ไขได้อย่างตรงจุด เพราะตลอด 25 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีสิ่งนี้ 3.อบจ.จะนำกีฬามาแก้ไขปัญหายาเสพติดให้กับเยาวชน 4.จะนำนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์จากทุกอำเภอทุกพื้นที่นำมาพัฒนาร่วมกันเพื่อนำไปสู่การออกไปยังตลาดในประเทศและนอกประเทศ​และ 5.เราจะจัดตั้งหน่วยกู้ภัยกู้ชีพเพื่อที่จะให้ทันต่อภัยพิบัติต่างๆที่จะเกิดขึ้นทั่วพื้นที่นราธิวาสซึ่งจะทำให้เราสามารถดูแลประชาชนของเราได้อย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์

“สิ่งเหล่านี้ผมจะทำให้ได้ เพราะการมาของผมในวันนี้ ไม่ได้มาคนเดียว ผมมาเป็นทีม เราจะทำงานกันเป็นเครือข่าย โดยร่วมกับประชาชนทุกคน เพราะผมเชื่อว่าการทำงานเพียงคนเดียวไม่มีทางประสบความสำเร็จ แต่ถ้าเรามีทีม มีเครือข่าย เราจะสามารถนำนราธิวาสเข้าสู่การพัฒนาให้เท่าเทียมกับหลาย ๆ จังหวัดได้ ดังนั้นผมจึงเสนอตัวเพื่อเข้ามาเปลี่ยนแปลงจังหวัดนราธิวาส สิ่งที่ผมพูดไปไม่ใช่แค่คำสัญญา แต่ผมจะทำให้เห็นว่า ได้ลงมือทำจริงและทำทันที โดยไม่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากเราจึงสามารถขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวได้ทันที”นายอับดุลลักษณ์ กล่าว


ด้านนายอามินทร์ กล่าวขอบคุณชาวนราธิวาส ที่มาร่วมฟังปราศัยเพื่มขึ้นต่อเนื่อง พร้อมระบุกว่า 25 ปียุคของ 3 พ่อลูก ผู้นำคนเก่าไม่ค่อยได้ทำอะไร ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เมื่อตนเข้ามาเป็น สส.จึงเป็นโอกาสให้ได้พัฒนาในพื้นที่ของเรา อีกทั้ง วันนี้เรามี 3 สส.เราสามารถประสานได้หลายกระทรวง การพัฒนาจะเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน ครั้งนี้เราจะมาเปลี่ยนนราธิวาสไปด้วยกัน อำเภอรือเสาะ เป็นพื้นที่ ๆ มีเยาวชนจำนวนมาก แต่ อบจ.คนเดิมให้ความสำคัญอะไรกับเยาวชนบ้าง จริงๆแล้วเรามีสภาเด็กแล้วเยาวชนแต่ยกเว้นที่นี่ เราไม่เคยมี แต่ครั้งนี้เราจะผลักดันเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นให้ได้ เพื่อพัฒนาเยาวชนของเราที่ถือว่าเป็นเสาหลักของประเทศชาติ เราจะแสดงให้เห็นว่าเด็กๆ ของพวกเราจะมีความสำคัญมากขนาดไหน โดยเฉพาะเรื่องกีฬาที่เราจะสนับสนุนให้กับลูกหลานของเราให้เทียบเท่ากับจังหวัดอื่น ๆ ยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการโจมตีใคร แต่นี่คือการเปิดหูเปิดตาให้กับประชาชนว่า เราสามารถทำอะไรได้บ้างแต่ที่ผ่านมาทำไมถึงไม่เคยทำ

ด้านนายไพซอล อาแว กล่าวว่า 25 ปีเราไม่เคยเจอการปราศรัยในเวที อบจ.แต่ครั้งนี้คือประวัติศาสตร์ ที่ผ่านมาเราแทบจะลืมคำว่า นายก อบจ.ไปแล้ว แต่รอบนี้เป็นความหวังของชาวนราฯทุกคน เพราะเราได้รวมตัวกันให้เป็นหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้เกิดน้ำท่วมหายนะครั้งใหญ่ เป็นประวัติการณ์ เราได้เห็นพี่น้องของเราหลั่งน้ำตา บางท่านไม่มีบ้าน บางท่านนั่งอยู่บนหลังคา ตนขอถามว่า อบจ.ทำอะไรบ้าง การเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.พ.นี้ ถ้าเราเปลี่ยนแสดงว่า เราได้เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ของนราธิวาสแล้ว ตนฝากว่า การทำงานรอบนี้ไม่ใช่การทำงานแค่คนเดียว เราจะทำงานกันทั้งทีม คนไหนถนัดอะไรก็จะดูแลเรื่องนั้น ขอให้ทุกคนมาร่วมพลิกประวัติศาสตร์ไปด้วยกัน

ด้านนายซาการียา สะอิ สส.นราธิวาส กล่าวว่า ถึงตนกับ สส.บีลาและ สส.อามินทร์ จะสังกัดคนละพรรคการเมือง แต่พวกเราคือ พรรคพวกกัน หากเราร่วมกันเดินหน้าพัฒนาจังหวัดนราธิวาสบ้านเรา ตนเชื่อว่านราธิวาส จะเปลี่ยนไปจากเดิมแน่นอน วันนี้จังหวัดอื่นๆทั่วประเทศเล็งเห็นความสำคัญด้านการศึกษาปูพื้นฐานตั้งแต่เป็นเด็กเยาวชน ซึ่งถือว่าเป็นฐานรากที่เข้มแข็งของประเทศ แต่บ้านเรายังแข่งกับเขาไม่ได้ รวมถึงโรงเรียนสอนศาสนา หรือ ตาดีกา ที่บางแห่งยังได้รับการสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือจากต่างประเทศ


“ผมเชื่อว่าทุกท่านรู้ดีว่า นายอับดุลลักษณ์ จะมาทำอะไรให้กับทุกท่าน วันนี้การเปลี่ยนแปลงของอำเภอรือเสาะ จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของจังหวัดนราธิวาส เพราะทุกท่านทราบกันดีว่า ที่ผ่านมา 25 ปีที่ เราได้อะไรจาก อบจ.บ้าง โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา แต่วันนี้เราจะการสร้างอาคารเอนกประสงค์เพื่อเป็นโรงเรียนสอนศาสนาให้กับทุกพื้นที่ เพราะปัจจุบันเรามีอยู่เพียง 2 แห่งเท่านั้น “นายซาการียา กล่าว

นายซาการียา กล่าวต่อว่า เหตุผลที่ตนต้องพูดเรื่องการเรียนศาสนา เพราะถ้าคนเรามีก็จะมีจริยธรรมไปสอนให้เด็กมีจริยธรรม เป็นคนดีในสังคมได้ ซึ่งตนเชื่อว่าทุกท่านอยากให้ลูกหลานประสบความสำเร็จ มีหน้าที่การงานทำดี ๆ แต่วันนี้ เราขาดโอกาสเราไม่ได้รับเงินสนับสนุนจาก อบจ.ที่จะให้มีติวเตอร์ดี ๆ มาสอนให้เยาวชนของเรา.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]