“ชูวิทย์” แฉ “เศรษฐา”

กทม. 3 ส.ค.-“ชูวิทย์” แฉหลักฐานการซื้อขายที่ดินมูลค่ากว่า 1,570 ล้านบาท เลี่ยงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากว่า 521 ล้านบาท เชื่อ “เศรษฐา” แคนดิเดตนายกฯ รู้เรื่องอย่างดี เพราะเข้าประชุมกรรมการบริษัท

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำหลักฐานการซื้อขายที่ดินของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นอดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ และเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย โดยเป็นการซื้อขายที่ดินย่านถนนสารสิน ราคากว่า 1,570 ล้านบาท เมื่อปี 2562 ซึ่งเป็นที่ดินตารางวาละ 1 ล้านบาท ที่แพงที่สุดในประเทศไทย แต่มีการประเมินซื้อขายของบริษัทตารางวาละ 4 ล้านบาท ซึ่งมีการหลบเลี่ยงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทำให้รัฐขาดรายได้ไปกว่า 521 ล้านบาท โดยทำนิติกรรมอำพรางมีการแบ่งโอนที่ดินทั้งแปลงเป็น 12 วัน และให้มีผู้ซื้อขาย 12 คน โดยมีหลักฐานการโอนที่ดินในวันทำการติดต่อกันทั้ง 12 วัน จากเดิมที่ต้องเสียภาษีหากโอนที่ดินในวันเดียวเป็นเงินกว่า 580 ล้านบาท แต่ทางบริษัทเสียภาษีที่ดินเป็นเงินเพียง 59 ล้านบาท เท่านั้น


นายชูวิทย์ ยังระบุว่า การโอนที่ดินในลักษณะนี้ เป็นการเลี่ยงเสียภาษีในฐานะห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียน หรือคณะบุคคล เพราะต้องเสียจำนวนเงินเยอะกว่าการแยกจ่ายเป็น 12 วัน และยังเห็นว่ามีความผิดปกติในโฉนดที่ระบุถึงเงินมัดจำค่าที่ดินแต่ละวันไม่ตรงกัน ส่วนใหญ่ใช้เงินสดมากกว่าร้อยละ 50 ในการวางมัดจำ ซึ่งเป็นเงินครั้งละกว่า 200 ล้านบาท นายชูวิทย์ เห็นว่าผิดปกติ เพราะเงินจำนวนมากขนาดนี้จะต้องจ่ายด้วยเช็ก แต่ครั้งนี้เป็นเงินสด

นายชูวิทย์ ยังมีหลักฐานการประชุมของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2562 ที่มีมติให้แยกโอนที่ดินรวม 12 วัน โดยมีการลงนามรับรองของนายเศรษฐา ซึ่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ เป็นบริษัทมหาชน มีฝ่ายกฎหมายที่เชี่ยวชาญ นายเศรษฐา จึงต้องรู้ช่องทางกฎหมายเป็นอย่างดี และเชื่อว่าหากนายเศรษฐา ได้รับการเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะมีการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มนายทุนต่างๆ เช่นเดียวกับคดีเก่าๆ ของนายทักษิณ ชินวัตร


นายชูวิทย์ ยังระบุว่า บริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ไม่เคยซื้อที่ดินโดยตรงจากเจ้าของ แต่ให้บริษัทในเครือมาซื้อ แล้วก็ทำธุรกรรมอำพรางจนทำให้มีราคาที่ดินสูงขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทดังกล่าว เคยมาติดต่อซื้อที่ดินของนายชูวิทย์ มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท มาแล้ว แต่ไม่ขายให้ เนื่องจากติดสัญญาซื้อขายกับบริษัทอื่นอยู่ และได้ขายไปให้กับบริษัทดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว โดยยืนยันว่าการที่ออกมาเปิดเผยในครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายที่ดินกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ และไม่ได้มีเรื่องโกรธเคืองกับนายเศรษฐา แต่เป็นการออกมาพูดเพื่อประโยชน์สาธารณ ที่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์

หลังจากนี้ก็จะนำเรื่องดังกล่าวส่งให้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต. กรมสรรพากร และประธานรัฐสภา ตรวจสอบความผิดปกติของการหลีกเลี่ยงภาษีของนายเศรษฐา ซึ่งถือว่าทำให้รัฐเสียหายกว่า 521 ล้านบาท ต่างจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แม้ว่าจะถูกกล่าวหาว่าถือครองหุ้นสื่อ 42,000 หุ้น แต่ยังไม่ทำความเสียหายให้กับประเทศ

นายชูวิทย์ ยังระบุว่า บริษัทอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ในไทย มักจะหลีกเลี่ยงภาษีด้วยวิธีนี้ แต่บริษัทดังกล่าว ทำเยอะกว่าบริษัทอื่น จึงไม่เห็นด้วยที่จะเสนอให้นายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรี แต่เห็นว่านายชัยเกษม นิติสิริ ที่มีชื่อเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มีความเหมาะสมที่สุด เพราะเป็นผู้มีความรู้ทางกฎหมาย และมีอายุมากแล้วคงไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง ส่วนนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร เห็นว่า ยังมีเรื่องผลประโยชน์เรื่องของการทำทุกอย่างให้นายทักษิณ กลับไทย


สำหรับการออกมาเปิดเผยข้อมูลครั้งนี้ นายชูวิทย์ ระบุว่าเป็นการแฉเพื่อชาติ และเป็นเพียงเรื่องแรก ยังมีอีก 11 เรื่อง ที่ยังรอการเปิดเผย ซึ่งนายชูวิทย์ได้ตั้งชื่อเรื่องไว้ทั้งหมดแล้ว

ในการแถลงข่าวครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสังเกตุเห็นนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาฟังข้อมูลของนายชูวิทย์ โดยนายเรืองไกร กล่าวว่า เตรียมประสานขอข้อมูลในวันนี้ เพื่อนำไปตรวจสอบคุณสมบัติของแคนดิเดตนายกฯ หากเข้าข่ายการกระทำความผิด จะดำเนินการทันที แต่ตอนนี้ขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก

พาชมเรือใบอิตาลีจอดเทียบท่าภูเก็ต

เมื่อ 2 วันก่อน สำนักข่าวไทยเก็บภาพของเรืออเมริโกเวส ปุชชี่ ขณะกำลังจะเข้าจอดเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ตให้ได้ชมไปแล้ว วันนี้คุณเพลินพิศ ชูเสน จะพาไปทำความรู้จักเรือลำนี้ให้มากขึ้นพร้อมกับพาไปเยี่ยมชมภายในตัวเรือ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

นายกฯ เผยผลสำเร็จร่วมประชุมเวทีอนุภูมิภาค GMS ACMECS

“แพทองธาร” นายกฯ เผยผลสำเร็จร่วมประชุมเวทีอนุภูมิภาค GMS ACMECS ขับเคลื่อนความร่วมมือสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต การพัฒนาคุณภาพชีวิต และความกินดีอยู่ดีของประชาชนในภูมิภาคอย่างไร้รอยต่อ