นนทบุรี 20 ก.ค.-กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยยอดจดทะเบียนในช่วง 6 เดือนแรกปี 66 นักลงทุนยังมั่นใจเศรษฐกิจไทยดันสถิติการจัดตั้งธุรกิจใหม่ครึ่งปีแรก 2566 สูงสุดในรอบ 10 ปี (ปี 2557 – 2566) เช่นเดียวกัน โดยเพิ่มขึ้นถึง17.33% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (ม.ค. – มิ.ย. 65) พร้อมปรับคาดการณ์ยอดจดทะเบียนใหม่จากเดิม 75,000-78,000 รายเป็นประมาณ 83,000 – 90,000 รายเหตุภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศครึ่งหลังปีดีขึ้น
รายงานข่าวจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้มีการยอดวิเคราะห์การจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนมิถุนายน 2566 และครึ่งปีแรก 2566 โดยยอดการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเดือนมิถุนายน 2566 มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่จำนวน7,626 ราย เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็น 14.49% (มิถุนายน 2565) และเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาคิดเป็น 2.54% (พฤษภาคม 2566) ในขณะที่การจดทะเบียนเลิกธุรกิจในเดือนมิถุนายน 2566 มีจำนวน 1,659 ราย เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็น 13.40% และเพิ่มขึ้นจาก
เดือนที่ผ่านมา (พฤษภาคม 2566) คิดเป็น 34.44%
ขณะที่ การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจครึ่งปีแรก 2566 มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่จำนวน 47,286 ราย เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา (ครึ่งปีแรก 2565) คิดเป็น 17.33% และเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีหลัง 2565 คิดเป็น30.67% ในขณะที่การจดทะเบียนเลิกธุรกิจครึ่งปีแรก 2566 มีจำนวน 7,097 ราย เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา (ครึ่งปีแรก 2565) คิดเป็น 18.11% แต่ ลดลงจากครึ่งปีหลัง 2565
คิดเป็น 55.28%
ทั้งนี้ ภาพรวมการจัดตั้งธุรกิจในเดือนมิถุนายน 2566 และครึ่งปีแรก 2566 มีจำนวนการจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้น โดยการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในเดือนมิถุนายน 2566 เป็นการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่สูงสุดในรอบ 10 ปี ของเดือนมิถุนายน(มิถุนายน 2557 – 2566) และสูงสุดในรอบ 10 ปี เป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน (ม.ค. – มิ.ย. 66) ส่งผลให้สถิติการจัดตั้งธุรกิจใหม่ครึ่งปีแรก 2566 สูงสุดในรอบ 10 ปี (ปี 2557 – 2566) เช่นเดียวกัน โดยเพิ่มขึ้นถึง 17.33% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (ม.ค. – มิ.ย. 65)
ทั้งนี้ พบว่า มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในครึ่งปีแรก 2566 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 52.76% (ครึ่งปีแรก 2565) เนื่องจากในเดือนมีนาคม 2566 มีการควบรวมกิจการในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมและธุรกิจประกันวินาศภัย รวมทั้งมีการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดในกลุ่มธุรกิจโฮลดิ้งและโรงแรม
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนจำนวนการจดทะเบียนธุรกิจให้เติบโตสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยในหลายๆ ด้าน เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ปรับตัวดีขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในครึ่งปีแรก 2566 มีจำนวนการจดจัดตั้งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 81.20% มีสัดส่วนคิดเป็น 7.99% ของจำนวนธุรกิจที่จัดตั้งทั้งหมดในครึ่งปีแรก
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจน่าจับตามองที่เติบโตถึง 2.5 เท่า จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ครึ่งปีแรก 2565) ได้แก่ ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเติบโต 2.57 เท่า (เพิ่มขึ้น 121 ราย) คาดว่าเป็นผลมาจากธนาคารกลางในหลายประเทศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลต่อนโยบายทางการเงินและค่าเงินของแต่ละประเทศ ประกอบกับการเดินทางท่องเที่ยวกลับมาคึกคักทำให้ความต้องการแลกเปลี่ยนเงินตราเพิ่มขึ้น และธุรกิจขายส่งข้าวเปลือกและธัญพืชเติบโต 2.54 เท่า (เพิ่มขึ้น 112 ราย) คาดว่าเป็นผลมาจากนโยบาย BCG Model ของรัฐบาลที่ส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิตข้าวรักษ์โลก โดยจะมีการสนับสนุนปัจจัยการผลิตและเครื่องจักรกลการเกษตรจากกรมการข้าวจากปัจจัยดังกล่าวข้างต้นกรมพัฒนาธุรกิจการค้าคาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 36,000 – 43,000 ราย ทำให้กรมฯได้ปรับคาดการณ์ยอดจดทะเบียนตั้งใหม่จากเดิม 75,000-78,000 รายเป็นตลอดทั้งปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 83,000 – 90,000 รายเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย