กรุงเทพฯ 12 ก.ค. – วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ (วสท.) ประเมินสถานการณ์ความปลอดภัย ก่อนยกคานลอชเชอร์ของสะพาน ซึ่งมีแผ่นซีเมนต์ขนาดใหญ่ทับอยู่ออกจากพื้นที่ เกรงหากเกิดการเคลื่อนไหวแล้วจะกระทบต่อโครงสร้างอื่น ๆ
นายชัชชญา ขำจันทร์ ผอ.เขตลาดกระบัง พร้อมตัวแทนเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตลาดกระบัง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย ตำรวจ สน.จรเข้น้อย มูลนิธิร่วมกตัญญู และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ประชุมติดตามความคืบหน้าการระดมกำลังรื้อถอนเศษซากโครงสร้างทางยกระดับอ่อนนุช-ลาดกระบัง ที่ถล่มขณะกำลังก่อสร้าง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และเสียชีวิตอีก 2 ราย
นายชัชชญา กล่าวว่า หลังเกิดเหตุมีผู้แจ้งขอความช่วยเหลือผ่าน 2 ช่องทาง คือ สายด่วนสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร 199 และศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ หน้าห้างโลตัส สาขาลาดกระบัง รวมยอดรับแจ้งทั้งหมด 22 ราย เป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายกับอาคารบ้านเรือน ของใช้ต่าง ๆ เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ในนี้มี 2 ราย ที่ไม่มีที่อยู่อาศัย รายแรก อยู่อาศัยกัน 10 คน ในซอย สน.จรเข้น้อย ส่วนอีก 1 ราย เป็นผู้สูงอายุ พักอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ใกล้ตลาดสด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ยุติการรื้อถอนเมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา เนื่องจากการปฏิบัติงานจะส่งเสียงดัง ก่อนมาเริ่มทำต่อในช่วงเช้าวันนี้ ปรากฏว่า ผลการรื้อถอนรวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ จึงคาดว่าจะสามารถคืนพื้นที่ได้เร็วขึ้น
สำหรับสถานีดับเพลิงลาดกระบัง ได้รับกำลังสนับสนุนจากสถานีดับเพลิงประเวศมาเพิ่ม พร้อมสั่งสแตนด์บายหัวฉีดน้ำระหว่างการตัดโครงสร้างเหล็ก เนื่องจากในพื้นที่ได้รับความเสียหาย ยังมีปั๊มน้ำมันอยู่ด้วย
ขณะที่ตัวแทนจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ (วสท.) กำลังประเมินสถานการณ์ความปลอดภัย เพื่อยกคานลอชเชอร์ของสะพาน ซึ่งมีแผ่นซีเมนต์ขนาดใหญ่ทับอยู่ออกจากพื้นที่ เนื่องจากเกรงว่าหากเกิดการเคลื่อนไหวแล้วจะกระทบต่อโครงสร้างอื่น ๆ ด้วย เบื้องต้นได้ทยอยยกออกไปแล้ว 7 แผ่น จากทั้งหมด 14 แผ่น คงเหลืออีก 7 แผ่น โดยจะเร่งนำออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย