อุทัยธานี 20 มิ.ย.-กลุ่มผู้เลี้ยงปลากระชัง จังหวัดอุทัยธานี กังวลใจเกี่ยวกับกฎหมายสิ่งกีดขวางทางน้ำของกรมเจ้าท่า ซึ่งจะมีผลให้กระชังปลาทั้งหมดต้องยกขึ้นจากน้ำ ยกเว้นจะขออนุญาตจากกรมเจ้าท่าให้ถูกต้อง และเสียค่าธรรมเนียมตารางเมตรละ 50 บาทต่อปี ขณะนี้กรมประมงกำลังหาแนวทางช่วยเหลืออยู่
กลุ่มผู้เลี้ยงปลากระชัง ตำบลท่าซุง ทยอยกันไปขออนุญาตสร้างสิ่งปลูกสร้างในแม่น้ำสะแกกรัง จากกรมเจ้าท่า ซึ่งกำหนดว่าต้องทำภายในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ หากผู้ใดไม่มาขออนุญาต กรมเจ้าท่าจะรื้อถอนออก
ประธานกลุ่มกล่าวว่า เดิมทีเข้าใจว่าสิ่งกีดขวางทางน้ำตามกฎหมายนั้นหมายถึงร้านอาหารและรีสอร์ทต่างๆ ที่สร้างในลำน้ำ ไม่คิดว่าจะรวมถึงกระชังปลา ซึ่งทำพอยังชีพของเกษตรกรด้วย สมาชิกกลุ่มมี 179 ราย กังวลกันหมดว่าจะมีเงินจ่ายค่าธรรมเนียมรายปี ซึ่งต้องจ่ายตารางเมตรละ 50 บาท หรือไม่ เพราะชาวอุทัยธานีเลี้ยงปลาแรดเป็นส่วนใหญ่ ปลาแรดเป็นผลผลิต GI หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของที่นี่ ด้วยวิธีการเลี้ยงไม่เร่งด้วยอาหารเม็ด แต่ให้กินผักและเปลือกผลไม้ ดังนั้น กว่าจะจับขายได้ ใช้เวลาอย่างน้อยปีครึ่ง
คุณวัณเพ็ญเลี้ยงปลา 6 กระชัง กระชังมีขนาด 30 ตารางเมตร ปีหนึ่งต้องเสียค่าธรรมเนียม 9,000 บาท ประมงจังหวัดอุทัยธานีกล่าวว่า ได้แนะนำให้ผู้เลี้ยงปลากระชัง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอเมือง 367 ราย รวม 1,070 กระชัง ไปขึ้นทะเบียนกับกรมเจ้าท่า และได้ประสานกับสภาเกษตรกร ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายนี้ไปก่อน 6 เดือน ถึง 1 ปี และขอลดค่าธรรมเนียมรายปีจากตารางเมตรละ 50 บาท เป็น 5 บาท
เกษตรกรหลายรายทั้งในลำน้ำสะแกกรังและเจ้าพระยาต่างกังวลใจมาก เช่น ที่จังหวัดนครสวรรค์ หลายคนรีบขายปลาทั้งที่ยังไม่ได้ขนาด ยอมขาดทุน แล้วยกข่ายขึ้น เพราะกลัวเสียค่าธรรมเนียมไม่ไหว ที่นี่ยังมีปลาแรดแปลงใหญ่อุทัยธานี มีสมาชิก 100 ราย ซึ่งเกษตรกรไม่เข้าใจว่าในขณะที่กรมประมงสนับสนุนให้ทำแล้ว เหตุใดจึงกลายเป็นเรื่องผิดกฎหมายของกรมเจ้าท่า.-สำนักข่าวไทย