หนุ่มโหดฆ่าลูกเลี้ยงวัย 13 ยัดศพในถังน้ำแข็งโบกปูนอำพราง

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – หนุ่มโหดคว้าไม้เบสบอลฟาดลูกเลี้ยงวัย 13 ปี เสียชีวิต ก่อนยัดศพใส่ถังน้ำแข็งโบกปูนทับอำพราง ในบ้านย่านบางเขน


เวลาประมาณ 00.30 น.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.บางเขน พร้อมแพทย์นิติเวช ตรวจสอบเหตุฆาตกรรมภายในทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ซอยพหลโยธิน 48 ประกอบกิจการรับจ้างแพ็กสินค้าส่งให้บริษัทขนส่ง โดยบริเวณห้องครัวหลังบ้านชั้นล่างพบถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร สีน้ำเงิน วางอยู่ใต้เคาน์เตอร์อ่างล้างจาน เมื่อนำถังดังกล่าวออกมาเปิดดูพบมีการถมด้วยดินอยู่ชั้นบนสุด และโบกปูนทับในชั้นรองลงมา

เมื่อตักดินและทุบทำลายปูนออก พบศพ ด.ญ.อายุ 13 ปี หลานสาวเจ้าของบ้าน สภาพศพเปลือยกาย มีถุงขยะสีดำและผ้าขนหนูสีชมพูห่อหุ้มร่างเอาไว้ นอกจากนี้ยังมีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งตามใบหน้าและร่างกายหลายแห่ง สันนิษฐานเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 48 ชั่วโมง


จากการสอบสวนผู้แจ้งเหตุซึ่งเป็นเครือญาติ ให้ข้อมูลว่าผู้ตายเป็นลูกสาวของญาติห่างๆ ของตนเอง ไม่ได้เรียนหนังสือ และไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่ โดยตั้งแต่อายุ 5 ขวบ จนถึงปัจจุบัน อาศัยอยู่กับเจ้าของบ้าน คือ นางสาวนิรมล ซึ่งเป็นญาติห่างๆ และมีนายแจ๊บ อายุ 29 ปี เป็นสามี ซึ่งทั้งคู่เป็นผู้รับอุปการะในฐานะพ่อและแม่เลี้ยง

อย่างไรก็ตาม ทราบว่าผู้ตายมีอุปนิสัยค่อนข้างก้าวร้าวและลักขโมยข้าวของในบ้าน จนทำให้ทั้งนางสาวนิรมล และนายแจ๊บ ต้องว่ากล่าวตักเตือนและทำโทษด้วยการตีอยู่หลายครั้ง กระทั่งเมื่อวานนี้ (3 ก.ค.) เวลาประมาณ 19.00 น. ทั้งคู่ขับรถเก๋งมาที่บ้าน และนายแจ๊บสารภาพว่าใช้ไม้เบสบอลตีเด็กหญิงอายุ 12 ปี จนเสียชีวิตตั้งแต่ช่วงกลางดึกคืนวันที่ 2 ก.ค. เพราะจับได้ว่าขโมยอาหารเสริม ซึ่งเป็นสินค้าที่ต้องแพ็กส่งลูกค้า

ผู้แจ้งเหตุบอกอีกว่าหลังจากผู้ก่อเหตุพลั้งมือตีลูกเลี้ยงจนเสียชีวิต ได้วางแผนทำลายศพด้วยการหั่นแต่ไม่กล้า จากนั้นช่วงหัวค่ำวันเดียวกัน จึงไปซื้อถังพลาสติกขนาดใหญ่มาใส่ศพโบกปูนและถมดินทับ ก่อนตัดสินใจรับสารภาพให้ช่วยแจ้งตำรวจ โดยหลังจากแจ้งความแล้ว นายแจ๊บได้เดินทางไปหาเพื่อนแถวแฟลตดินแดงแล้วไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ส่วนนางสาวนิรมล ผู้เป็นภรรยา ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนนำตัวไปสอบปากคำเป็นเรียบร้อยแล้ว


ด้านนายแบงค์ เพื่อนผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า กลางดึกวันอาทิตย์ ผู้ก่อเหตุโทรมาขอยืมอุปกรณ์ประเภทเลื่อย เครื่องตัด และถังน้ำแข็ง อ้างว่านำไปทำชั้นวางของ จึงให้ยืมเลื่อยกับเครื่องตัดไป ก่อนผู้ก่อเหตุนำอุปกรณ์มาคืน บอกว่าไม่สามารถใช้ได้ ในภายหลังช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันจันทร์ ผู้ก่อเหตุติดต่อมาหาและสารภาพว่าฆ่าเด็กจนเสียชีวิต จึงร่ำลากันก่อนหายตัวไป ช่วงแรกไม่เชื่อ เพราะคิดว่าผู้ก่อเหตุมีอาการหลอนยาเสพติด เนื่องจากมีการใช้สารเสพติดอยู่บ่อยครั้ง ก่อนมาทราบในภายหลังว่าเกิดเหตุขึ้นจริง

นอกจากนี้แฟนของผู้ก่อเหตุเล่าให้ฟังอีกว่า เด็กหญิงคนดังกล่าวแอบขโมยกินสินค้าออนไลน์ที่กำลังจะจัดส่ง ทำให้ผู้ก่อเหตุโมโห ใช้ไม้เบสบอลกระหน่ำตีจนแน่นิ่งไป จากนั้นผู้ก่อเหตุพยายามหาอุปกรณ์ ถังน้ำแข็ง มาอำพรางศพ ซึ่งแฟนผู้ก่อเหตุเก็บเรื่องราวมาตลอด และถูกสั่งให้ลบภาพจากกล้องวงจรปิด แต่เจ้าตัวไม่ลบ พร้อมนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ประสานให้ฝ่ายสืบสวนติดตามตัวนายแจ๊บมาดำเนินคดี ส่วนนางสาวนิรมล ต้องรอผลสอบปากคำว่ามีส่วนรู้เห็นมากน้อยเพียงใด หากพบว่ามีพฤติกรรมร่วมกันกระทำความผิดจะแจ้งข้อหาในฐานะผู้ร่วมกันฆ่า และร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”