พลายศักดิ์สุรินทร์ ขึ้นเครื่องบินออกจากศรีลังกาแล้ว

ศรีลังกา 2 ก.ค.-พลายศักดิ์สุรินทร์ มีอาการสงบ ไม่ต้องใช้ยาซึม ขึ้นเครื่องบินออกจากศรีลังกาแล้ว ถึงสนามบินเชียงใหม่ บ่ายวันนี้

พลายศักดิ์สุรินทร์ ทูตสันถวไมตรี ออกเดินทางจากศรีลังกาเพื่อกลับไทยแล้ว โดยนางสาวกัญจนา ศิลปอาชา ได้เปิดเผยถึงบรรยากาศขณะเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้าย พลายศักดิ์สุรินทร์ ออกจากสวนสัตว์ และขึ้นเครื่องเมื่อเวลา 03.00 น. และมีกำหนดการถึงสนามบินเชียงใหม่ ช่วงเวลา 14.00 น. วันนี้ 2 ก.ค.66 การขนย้ายช้างครั้งนี้ ลูกเรือของเครื่องบินขนส่งตื่นเต้น มาถ่ายรูปพ่อพลาย เพราะเป็นครั้งแรกในการขนย้ายสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยบินมา


สำหรับขั้นตอนการขนย้าย “พลายศักดิ์สุรินทร์” เมื่อคืนที่ผ่านมา (1 ก.ค.) เริ่มตั้งแต่เวลา 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นศรีลังกา จากนั้นเวลาประมาณ 23.00 น. นำช้างเดินเข้ากรง โดยใช้รถเครนขนาดใหญ่ยกกรงช้างไปไว้บนรถเทรลเลอร์ลากพ่วง และเวลา 24.00 น. เริ่มขนย้ายทางรถยนต์ จากสวนสัตว์ Dehiwala ไปยังสนามบินบันดารานายาเก กรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา และใช้รถเครนขนาดใหญ่ย้ายกรงช้างจากรถเทรลเลอร์ ในช่วงการยกกรงช้างโดยรถเครน ซึ่งขณะปฏิบัติการมีเจ้าหน้าที่ร่วมดำเนินการประมาณ 40 คน ระหว่างเดินทางไปสนามบินมีฝนตกเป็นระยะ หยุดตกเมื่อถึงสนามบิน และเมื่อเวลา 04.49 น. ได้เคลื่อนย้ายกรงเข้าไปในเครื่องบินแบบ Ilyushin IL-76 จากนั้นเครื่องบินขนส่งรัสเซียเริ่มเดินทาง เวลา 09.11 น. เพื่อบินสู่สนามบินเชียงใหม่ ประเทศไทย โดยใช้เวลาในการทำการบินประมาณ 5-6 ชั่วโมง เนื่องจากต้องใช้เพดานบินและความเร็วต่ำ คาดถึงสนามบินเชียงใหม่ประมาณ 14.12 น.

พลายศักดิ์สุรินทร์ อยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด นายสัตวแพทย์สิทธิเดช มหาสาวังกุลและนายสัตวแพทย์ขจรพัฒน์ บุญประเสริฐ รวมถึงควาญช้าง 4 คน ได้แก่ นายทรชัยสิทธิ์ ศิริ นายศุภชัย บุญเกิด นายไกรสร เครือจันทร์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่จากสถาบันคชบาลแห่งชาติฯ และการอุตสาหกรรมป่าไม้ และ Mr. Don Upul Jayarathna Denelpitiyage หัวหน้าชุดควาญศรีลังกา จากสวนสัตว์ Dehiwala 1 คน ที่ช่วยปฏิบัติหน้าที่ในการร่วมเดินทางดูแลช้างบนเครื่องบินขนส่ง


นายสัตวแพทย์ สิทธิเดช มหาสาวังกุล ผู้ดูแลช้างบนเครื่องบินยืนยันว่า ช้างมีอาการสงบ ยังไม่ต้องใช้ยาสงบประสาท (ยาซึม) แต่เตรียมพร้อมไว้หากเกิดเหตุการณ์เฉพาะหน้าช้างมีอาการตื่นกลัวระหว่างเดินทาง ทั้งนี้ ภายในกรงได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ติดตามดูอาการ แต่จะไม่สามารถใช้ได้บนเครื่องบิน เนื่องจากไม่มี Wi-Fi โดยจะสังเกตอาการช้างจากช่องที่เจาะไว้ ระหว่างเดินทางจะให้อาหารช้างทีละน้อยเพื่อลดความเครียดระหว่างเดินทาง

พลายศักดิ์สุรินทร์ เป็นทูตสันถวไมตรี โดยย้อนอดีตไปเมื่อปี 2544 ประเทศศรีลังกาได้ขอลูกช้างจากไทยเพื่อนำไปฝึกใช้ในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในงานแห่พระธาตุเขี้ยวแก้ว ซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปีของศรีลังกาที่มีการจัดอย่างต่อเนื่องมากว่า 270 ปี โดยรัฐบาลไทยได้ส่งช้าง 2 เชือกไปเป็นทูตสันถวไมตรี ได้แก่ พลายศรีณรงค์ และพลายศักดิ์สุรินทร์ ขณะที่ก่อนหน้านั้นในปี 2523 ไทยได้ส่งช้างเชือกแรกไปเป็นทูตสันถวไมตรีให้ศรีลังกา คือ “พลายประตูผา” (ปัจจุบันอายุ 49 ปี)

สำหรับพลายศักดิ์สุรินทร์เป็นช้างเชือกที่ 3 ที่ถูกส่งไปเป็นทูตสันถวไมตรีที่ศรีลังกา พลายเชือกนี้เป็น “ช้างเลี้ยง” ไม่ใช่ช้างป่า เป็นช้างที่มีคชลักษณ์โดดเด่นตรงตามความต้องการของศรีลังกา เพื่อใช้ในงานแห่พระธาตุเขี้ยวแก้ว ซึ่งหลังจากถูกส่งไปอยู่ศรีลังกา รัฐบาลศรีลังกาได้โอนกรรมสิทธิ์ช้างเชือกนี้ให้กับวัดคันเดวิหาร (Kande Vihara) เป็นผู้รับช่วงดูแลต่อ เพื่อให้ทำหน้าที่ในขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุในงานแห่พระธาตุประจำปีของศรีลังกา ซึ่งมีเฉลี่ย 30 ครั้งต่อปี


พลายศักดิ์สุรินทร์เดินทางจากเมืองไทยไปอยู่ศรีลังกาตั้งแต่เป็นลูกช้างอายุไม่ถึง 10 ปี จนวันนี้มีอายุราว 30 ปี ถือเป็นช้างที่มีงาสวยงาม อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ หลังจากเดินทางไปศรีลังกาได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “มธุราชา” ต่อมาปี 2565 องค์กร “Rally for Animal Rights & Environment” (RARE) องค์การด้านการพิทักษ์สิทธิสัตว์ในศรีลังกา ได้ร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้แรงงานพลายศักดิ์สุรินทร์ที่ค่อนข้างหนัก ไม่ได้รับการดูแล ถูกล่ามโซ่ มีสภาพผอมโซ มีบาดแผลฝีที่สะโพก ขาบาดเจ็บ ควรได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วน

โดยในเดือน ส.ค.65 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ไปเยี่ยมความเป็นอยู่ของพลายศักดิ์สุรินทร์ เดือน ก.ย.65 ส่งทีมสัตวแพทย์ไปตรวจสุขภาพ ผลตรวจสอบพบว่าพลายศักดิ์สุรินทร์มีปัญหาด้านสุขภาพจริง ควรให้ช้างหยุดการทำงานและส่งตัวกลับมารักษาอาการป่วยที่ไทย โดยในเดือน พ.ย.65 ได้ย้ายพลายศักดิ์สุรินทร์มาดูแลในเบื้องต้นที่สวนสัตว์แห่งชาติศรีลังกา หรือสวนสัตว์เดฮิวาลา (Dehiwala) กรุงโคลัมโบ จากนั้นในเดือน ก.พ.66 รัฐบาลศรีลังกาเห็นชอบว่าพลายศักดิ์สุรินทร์ควรได้รับการดูแลสุขภาพโดยเร่งด่วน และขอบคุณรัฐบาลไทยในความช่วยเหลือดูแลสุขภาพช้าง โดยเห็นชอบให้นำพลายศักดิ์สุรินทร์กลับมารักษาอาการเจ็บป่วยที่ไทย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”