พรรคก้าวไกล 30 มิ.ย.-“ชัยธวัช” ยันได้ข้อยุติประธานสภาก่อน 2 ก.ค.แน่ ย้ำหลักการตำแหน่งประธานเป็นของพรรคอันดับ 1 ไม่ใช่เรื่องความต้องการของพรรคใด เชื่อ ส.ส.-ส.ว. ร่วมมือกันทำประชาธิปไตยกลับเป็นปกติ มั่นใจเพื่อไทยจริงใจ ไม่พลิกขั้ว
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยืนยันว่าเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรยังอยู่ระหว่างการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งยังเป็นสัญญาณที่ดี แล้วจะต้องได้ข้อยุติที่ดีที่สุดก่อนที่จะมีการพูดคุยกัน อย่างเป็นทางการในวันที่ 2 กรกฎาคมเวลา 10.00 น. ที่พรรคก้าวไกล ซึ่งจะได้ข้อยุติแน่นอน
ทั้งนี้ โจทย์ของพรรคยังคงยืนยันว่าตำแหน่งประธานสภา ควรเป็นของพรรคที่ได้คะแนนอันดับ 1 ส่วนที่เริ่มมีสมการใหม่คือ 15+2 นั้น ยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยกันที่ผ่านมาเป็นเพียงกระแสข่าว ที่ออกมาเท่านั้น จึงขอให้รอการพูดคุยอย่างเป็นทางการก่อน
เมื่อถามว่าเพื่อไทยยอมถอยแนวโน้มเป็นอย่างนั้นหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ขอให้รอการพูดคุยอย่างเป็นทางการก่อนจะได้มีความชัดเจน และขอยืนยันว่าทั้ง 2 พรรคจะพยายามทำอย่างดีที่สุด เพื่อให้พี่น้องประชาชนไม่ผิดหวัง
สำหรับกรณีที่มีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยยอมตำแหน่งประธานสภาให้พรรก้าวไกล แต่ถ้านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่ได้รับเลือก นายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยก็จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทนนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ทราบว่าข่าวดังกล่าวมาจากไหน แต่เรายังเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้พูดอะไรแบบนั้น และเรื่องนี้ ตนไม่ต้องสอนหนังสือสังฆราช เพราะผลการเลือกตั้งชัดเจน ว่าพี่น้อชาชนส่วนใหญ่เลือกทั้งพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย เพราะมีความต้องการที่จะให้รัฐบาลชุดใหม่ กลับมาฟื้นฟูประชาธิปไตย เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ดังนั้นเราต้องช่วยกันไม่ทำให้ความผิดปกติ ที่อยู่ในรัฐธรรมนูญ ฉบับวันนี้กลายเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นตนยังเชื่อมั่น ว่าทางส.ส.และส.ว. จะช่วยกันคืนความปกติให้กับระบบรัฐสภา ในระบอบประชาธิปไตย ด้วยการยอมรับผลการเลือกตั้ง ให้พรรคที่ได้รับชัยชนะอันดับ 1 จากการเลือกตั้งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนมั่นใจหรือไม่ว่าหลังการพูดคุยได้ข้อยุติแล้วการโหวตวันที่ 4 ซึ่งเป็นการโหวตลับจะเป็นไปตามนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ถ้า 8 พรรคการเมืองเหนียวแน่นก็คงไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้นในเรื่องตำแหน่งประธานสภา ไม่ใช่เรื่องความต้องการส่วนตัวของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นเรื่องปกติในระบบประชาธิปไตย และ ตอนนี้ขอยืนยันว่าขอให้รอผลสรุปจากการพูดคุยซึ่ง เชื่อมั่นว่าจะออกมาด้วยดี เพราะทั้ง2พรรคทำงานภายใต้ผลประโยชน์ส่วนรวม และทั้งสองพรรคยังจับมือไปด้วยกันอย่างแน่นอน
เมื่อถามย้ำว่าหากอีกขั้วเสนอคนของขั่วฝั่งจัดตั้งรัฐบาล นายชัยธวัช กล่าวว่า ขอให้เชื่อมั่นในแกนนำและสมาชิกพรรค
เมื่อถามย้ำถึงที่บอกว่าไม่อยากสอนหนังสือให้สังฆราชหมายถึงการปล่อยตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีให้เพื่อไทยเป็นไปไม่ได้ใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ใช่ตนคิดว่า พวกเราที่ได้รับการเลือกตั้ง จากประชาชนส่วนใหญ่ที่ต้องการให้มาฟื้นฟูประชาธิปไตย เราจะต้องช่วยกันไม่ทำให้ความผิดปกติที่อยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเรื่องปกติ
สำหรับกรณีที่ส.ว.อาจจะไม่โหวตให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายชัยธวัชกล่าวว่า อย่าเพิ่งคิดไปไกลถึงตรงนั้น เพราะเมื่อผ่านการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วก็จะมีความชัดเจนขึ้น และเรายังเชื่อมั่น ว่า ทั้งส.ส.และส.ว. จะช่วยกันคืนความปกติให้กับการเมืองไทย ด้วยหลักการที่ว่าพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง และสามารถรวบรวมเสียงส่วนใหญ่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ ก็จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเมื่อปี 2562 แม้จะผิดเพี้ยนไปบ้าง แต่ส.ว.ก็ให้เหตุผลในการโหวตพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีว่า สามารถรวบรวมเสียงในสภาได้อย่างเป็นเอกภาพ
ส่วนที่ส.ว.ยังตั้งแง่เรื่องที่พรรคจะแก้ 112 เป็นข้ออ้างในการโหวตให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น จะอธิบายกับส.ว. อย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการโหวตนายก และกระบวนการ ไม่ว่าจะแก้ไขกฎหมายฉบับใด มีกระบวนการทางนิติบัญญัติอยู่แล้วในการตรวจสอบ ถ่วงดุล และ ใช้เสียงส่วนใหญ่หาข้อยุติในสภา และยังมีการตรวจสอบว่ากฎหมายที่ผ่านสภาไปแล้ว ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ดังนั้นขออย่ากังวลไปล่วงหน้าและตนคิดว่าการหลักการสำคัญในการเลือกนายกรัฐมนตรี คือหลักการที่อินกับการเลือกตั้ง
ส่วนที่มีข้อมูลว่าเอาเก้าอี้ประธานสภาไปแลกกับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายชัยธวัช กล่าวว่าเป็นข่าวลือไปต่างๆนานา ขอให้รอการพูดคุยอย่างเป็นทางการ เพราะบางทีมีการพูดไปโดยไม่มีข้อเท็จจริง ซึ่งกระบวนการเรื่องการแบ่งงานกันทำ ของรัฐบาลชุดใหม่จะดำเนินการหลังจากได้ตำแหน่งประธานสภาไปแล้ว
เมื่อถามว่ากรณีกระแสข่าวที่เพื่อไทยรอเสียบนายกรัฐมนตรี เป็นการแสดงว่าการดีลของ 8 พรรคมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ นายชัยธวัช ขออย่าเพิ่งไปมองเช่นนั้น เรายังเชื่อมั่นว่าเราจะทำงานร่วมกันด้วยความจริงใจ และเอาผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้ง และสิ่งที่สัมผัสได้ อย่างจริงใจ คือพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยและอีก 6 พรรคที่เหลือเชื่อมั่นว่า การแต่งตั้งรัฐบาลร่วมกัน 8 พรรคเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ
ส่วนกรณีที่ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้วพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุว่า “อยากออกก็ออกไม่ได้” เป็นการสะท้อนถึงการร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่าไม่บังคับคงต้องไปถามนายแพทย์ชลน่าน แต่เท่าที่ทำงานร่วมกันเราจริงใจ และเห็นว่าสมการในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้แกนนำคนอื่นๆในพรรคก้าวไกลทั้งนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค รวมทั้งคณะก้าวหน้า น.ส.พรรณิการ์ วานิช เข้ามาที่พรรค และคาดว่าน่าจะมีการพูดคุยกันถึงเรื่องดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย