ตรวจเขื่อนแควน้อยฯ โดยละเอียด หลังเกิดแผ่นดินไหวจ. พิษณุโลก

กรุงเทพฯ 29 มิ.ย. – กรมชลประทานตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนโดยละเอียด หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่ที่อ. บางกระทุ่ม จ. พิษณุโลก พบว่า ค่าอัตราเร่งสูงสุดที่เขื่อน น้อยกว่าค่าอัตราเร่งที่ออกแบบให้ต้านทานแรงจากแผ่นดินไหวไว้มาก ยืนยันไม่กระทบความมั่นคงแข็งแรงและปลอดภัยอย่างแน่นอน


นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานชลประทานที่ 3 ซึ่งตรวจสอบเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน รวมถึงเขื่อนดิน และอาคารประกอบอื่นๆ ในจังหวัดพิษณุโลก ตามที่ได้เกิดแผ่นดินไหวคืนที่ผ่านมา (29 มิ.ย.) เวลา 00.17 น. ขนาด 4.5 ที่ระดับความลึก 5 กิโลเมตร จุดศูนย์กลางอยู่ที่ี่ตำบลไผ่ล้อม อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก

ทั้งนี้เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนตั้งอยู่ที่ตำบลคันโช้ง อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวไปทางทิศใต้ประมาณ 70 กิโลเมตร เมื่อตรวจสอบอัตราเร่งสูงสุดที่เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนซึ่งตรวจวัดได้ 0.00236 g ซึ่งถือว่า น้อยมากเมื่อเทียบกับการออกแบบเขื่อนให้ต้านทานแรงจากแผ่นดินไหวได้ไม่น้อยกว่า 0.2 g จึงยืนยันว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของเขื่อนอย่างแน่นอน


นอกจากนี้ยังให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบความมั่นคงของอาคารชลประทานและทดสอบระบบการ เปิด-ปิดบานระบายน้ำล้น (spillway) และอาคารระบายลำน้ำเดิม (river outlet) ของเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เบื้องต้นพบว่า สามารถใช้งานได้ตามปกติ

ส่วนที่เขื่อนทดน้ำพญาแมน ตำบลบ้านยาง อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบอาคารเขื่อนและทำการทดสอบระบบเปิด-ปิด พบว่า ใช้งานได้ตามปกติ ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

สำหรับสำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและอาคารชลประทานที่สำคัญอื่นๆ ในความรับผิดชอบของสำนักงานชลประทานที่ 3 พบว่า ไม่กระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงเช่นกัน


นายประพิศกล่าวว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายจัดการความปลอดภัยเขื่อนและโครงการชลประทานในพื้นที่ ตรวจสอบอาคารชลประทานต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกเพิ่มเติมอย่างละเอียด แต่ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ท้ายเขื่อนมั่นใจในความปลอดภัยแข็งแรงของเขื่อนและอาคารชลประทานทุกแห่ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]