นายกฯ หนุนยกระดับผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมยางพารา

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ส่งเสริมความร่วมมือภาครัฐและเอกชนในโครงการยกระดับผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมยางพารา เพื่อยกระดับองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง และเพิ่มมูลค่าสินค้ายางพาราไทยอย่างยั่งยืน

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ดำเนินโครงการยกระดับผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมยางพารา (Capital Flow in Rubber Industrial Estate: CARE) เพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ยางพาราในภาคอุตสาหกรรมและภาคการเกษตร ทั้งการผลิตเพื่อบริโภคในประเทศ รวมถึงการผลิตเพื่อส่งออก เชื่อมั่นความร่วมมือที่เข้มแข็งจะต่อยอดเพิ่มโอกาสผลิตภัณฑ์ไทย


โฆษกประจำสำนักนายรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการยกระดับผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมยางพารา (CARE) ระหว่างกระทรวงการคลังและพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน มีจุดประสงค์สำคัญคือ 1) การยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรชาวสวนยาง 2) การผลักดันสินค้าและการจัดการให้ได้มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม และการดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG 3) การเพิ่มมูลค่าสินค้ายางพาราและมูลค่าการส่งออกของไทย 4) การให้ความรู้ด้านการจัดการ การเงิน ความรู้ด้านการส่งออก และความรู้อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และ 5) การเป็นต้นแบบบูรณาการความร่วมมือในระบบห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมประเภทอื่น ทั้งนี้ จะมีการจัดตั้งศูนย์บูรณาการอุตสาหกรรมยางพาราครบวงจร ณ นิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยาง จังหวัดระยอง เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานแบบครบวงจรให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่

สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ จะได้รับการสนับสนุนด้านข้อมูลข่าวสาร โอกาส และเงินทุนอย่างบูรณาการ อาทิ การให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารธุรกิจ การส่งออก การจัดการเงินทุน นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารและโอกาสทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการทุกระดับ การพัฒนาแนวทางสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เหมาะสม ซึ่งการลงนามขยายความร่วมมือในโครงการครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยสนับสนุนด้านการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้แก่ผู้ประกอบการ ในอุตสาหกรรมยางพาราไทย เป็นวงเงินจำนวน 2,000 ล้านบาท ในปี 2566


ทั้งนี้ การส่งออกผลิตภัณฑ์ยางพาราในปัจจุบันมีมูลค่า 680,000 ล้านบาทต่อปี โดยครอบคลุมห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยางพาราไทย ตั้งแต่การผลิตในขั้นปฐมภูมิจากเกษตรกรชาวสวนยาง ขั้นทุติยภูมิ อาทิ โรงงานผลิตน้ำยางข้น โรงงานผลิตยางแห้ง โรงงานแปรรูปไม้ยาง และขั้นตติยภูมิ อาทิ ผลิตภัณฑ์ยางทางการแพทย์ ชิ้นส่วนยานยนต์ ผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ในงานก่อสร้างและงานวิศวกรรม สายพาน เฟอร์นิเจอร์ไม้ยาง วัสดุก่อสร้าง ของเล่น ผลิตภัณฑ์ยางและไม้ยาง ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นจากความต้องการนำเข้าของจีนและญี่ปุ่น ตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ ล้อรถยนต์ และรถไฟฟ้า โดยโครงการความร่วมมือนี้ จะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจกันระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการ รวมถึงส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้อมูลการลงทุน เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ยางพาราของไทย และมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้เพิ่มมากขึ้น

“นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นโครงการความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้ายาพาราไทย และเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการเข้าถึงองค์ความรู้ที่จำเป็น จะส่งผลให้ยางพาราไทยมีโอกาสพัฒนาและเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน” นายอนุชา กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน

นายกฯ ขีดเส้น 30 วัน ออกมาตรการคุมสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศ

นายกฯ สั่ง พาณิชย์-ดิจิทัลฯ เข้ม 3 มาตรการ คุมสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศให้มีคุณภาพ ขีดเส้นให้เสร็จภายใน 30 วัน

“มาริษ” ประท้วงอิสราเอล หลังแรงงานไทยดับ 4

“มาริษ” รมว.ต่างประเทศ ร่อนหนังสือ​ประท้วงอิสราเอล หลังแรงงานไทยดับ 4 เจ็บ 1 ให้ยุติส่งเข้าพื้นที่เสี่ยงภัย พร้อมยับยั้งชั่งใจ ป้องกันความขัดแย้งขยายตัว ขอคนไทยชะลอการเดินทางไปอิสราเอล-ตะวันออกกลาง