Ecommass จับมือ กกร. เตรียมจัดงานสุดยอดซีอีโอ  2566

กรุงเทพฯ 8 มิ.ย.-สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ผนึก กกร.ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เตรียมประเดิมโครงการคัดเลือกสุดยอดผู้นำองค์กรภาคเอกชน (สุดยอดซีอีโอ) ปี 2566 หรือ CEO Econmass Awards 2023 สร้างต้นแบบผู้นำเอกชน หนุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศพ้นวิกฤตโควิด


นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทยในฐานะ ประธาน กกร. ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU. กับนายกฤษณะพงศ์ พงศ์แสนยากร  นายกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ   โดยมีนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยร่วมลงนาม และมีนายภูมินทร์ หะรินสุต รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และนางสาวกษมา ศิริกุล อุปนายกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจร่วมเป็นสักขีพยาน 

สำหรับความร่วมมือกันครั้งนี้ทางสมาคมผู้สื่อข่าวฯ ซึ่งมีสมาชิกประกอบวิชาชีพของผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจรวม 511 คนจะร่วมมือกับคณะกรรมการร่วมสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หรือ กกร. ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ซึ่งเป็นสถาบันหลักภาคเอกชนในการส่งเสริมการค้า การอุตสาหกรรม และการเงินของประเทศ  เพื่อส่งเสริมให้เกิดต้นแบบของประเทศในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยหลังวิกฤตโควิดคลี่คลาย


นายกฤษณะพงศ์ กล่าวว่า โครงการแรกที่สมาคมฯ กกร. และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยซึ่งได้ทำ MOU ไปก่อนหน้านี้จะดำเนินการร่วมกัน คือ โครงการคัดเลือกสุดยอดผู้นำองค์กรภาคเอกชน (สุดยอดซีอีโอ) ประจำปี 2566 หรือCEO Econmass Awards 2023 เพื่อสร้างต้นแบบผู้นำองค์กรภาคธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาศักยภาพภาคธุรกิจ เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การลงทุน และดูแลสังคมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน 

นายผยง กล่าวว่า ความร่วมมือนี้มีกรอบระยะเวลา 1 ปี โดย กกร.จะร่วมส่งกรรมการเป็นตัวแทน เพื่อเข้าร่วมเป็นหนึ่งทีมกรรมการคัดเลือกโครงการสุดยอดผู้นำองค์กรภาคเอกชน (สุดยอดซีอีโอ) ประจำปี 2566” หรือ CEO Econmass Awards 2023 เพื่อสร้างต้นแบบผู้นำองค์กรภาคธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาศักยภาพ เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การลงทุนและดูแลสังคมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน 

“กกร.จะส่งตัวแทนเข้าร่วมคณะกรรมการสรรหาสุดยอดผู้นำองค์กรภาคเอกชน และคณะกรรมการคัดเลือกสุดยอดผู้นำองค์กรภาคเอกชน ร่วมกับสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ และตัวแทนนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย “


นายเกรียงไกร กล่าวว่า กกร.และสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ จะบูรณาการความร่วมมือในการพัฒนา และแลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้ระหว่างกัน ตลอดจนเพื่อสื่อสารข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจไทยต่อสาธารณะ 

พร้อมกันนี้ กกร. จะร่วมสนับสนุนด้านวิชาการ เสริมสร้างความร่วมมือช่วยเหลืออำนวยความสะดวก แก่สมาคมฯ  ในการดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสมาชิกในด้านต่างๆ ซึ่งไม่ขัดต่อข้อกฎหมาย และความสงบสุขของประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง