พรรคก้าวไกล 1 มิ.ย.-“โรม” จี้ “บิ๊กตู่” แสดงสปิริต ยินดีกับผู้ชนะเลือกตั้ง ขอให้เตรียมเก็บของออกจากทำเนียบ ตั้งข้อสังเกต “วิษณุ” ชี้นำระบุ หาก “พิธา” ขาดคุณสมบัติ ต้องเลือกตั้งใหม่ทั้งประเทศ
นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงสปิริต ด้วยการออกมาแสดงความยินดีกับพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งจนถึงตอนนี้การเลือกตั้งผ่านมานานแล้ว ยังไม่ได้ยินคำยินดีจากผู้นำ รวมทั้งไม่ได้มีท่าทีว่าจะมีการเตรียมการส่งมอบงานให้กับรัฐบาลชุดใหม่แต่อย่างใด แต่ในทางกลับกัน ยังมีท่าทีที่แสดงออกว่าจะรอส้มหล่นได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปหรือไม่ ส่วนตัวมองว่าตอนนี้ยังไม่สายเกินไปที่พลเอกประยุทธ์จะแสดงความยินดีและออกมายอมรับความพ่ายแพ้
ส่วนกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยกตัวอย่าง เหตุการณ์เมื่อการเลือกตั้งปี 2549 เป็นโมฆะต้องมีการเลือกตั้งใหม่ทั้งประเทศ เพราะปรากฏภาพคุณหญิงท่านหนึ่ง เข้าคูหาและหันหน้าผิดด้าน เทียบเคียงกับกรณีการถือหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่อาจ ทำให้เกิดการเลือกตั้งซ่อมทั่วประเทศ นายรังสิมันต์ มองว่าเป็นคนละกรณี กับเรื่องของนายพิธา ส่วนคำร้องเรื่องการถือหุ้นในบริษัทสื่อของนายพิธา ฝ่ายกฎหมายของพรรคก้าวไกลได้เตรียมข้อชี้แจงเอาไว้ครบถ้วนหมดแล้ว มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหากระทบกับคุณสมบัติของนายพิธาอย่างแน่นอน
พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การออกมา แสดงความเห็นของนายวิษณุครั้งนี้เป็นการชี้นำสมาชิกวุฒิสภาและประชาชนให้เกิดความลังเลที่จะสนับสนุนพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ เพราะขณะนี้การพูดคุยสำหรับการจัดตั้งรัฐบาลกำลังเป็นไปได้ด้วยดี ดังนั้นการทำแบบนี้จึงเป็นการไม่เคารพเจตนารมย์ของประชาชนที่ออกมาเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา
“นายวิษณุควรใช้โอกาสนี้ ชี้แนะให้พลเอกประยุทธ์เตรียมตัวเก็บของออกจากทำเนียบรัฐบาลและส่งมอบงานให้รัฐบาลชุดต่อไปน่าจะเหมาะสมกว่า ดังนั้นจึงเรียกร้องให้ประชาชนอย่าให้ความสำคัญกับนายวิษณุมากเกินไป เพราะบางเรื่องนายวิษณุก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป” นายรังสิมันต์ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายจเด็จ อินสว่าง สมาชิกวุฒิสภา แสดงความคิดเห็นว่าควรมีรัฐบาลแห่งชาตินั้น นายรังสิมันต์ เชื่อว่าขณะนี้การจัดตั้งรัฐบาลที่มาจากประชาชน 8 พรรคยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพราะถือเป็นการเคารพมติจากประชาชน และการเตรียมการจัดตั้งรัฐบาลจนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้ประสบปัญหาอะไรจนถึงขั้นต้องตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ส่วนตัวเชื่อว่าปัญหาต่างๆ มีทางออกให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้แม้ว่าจะ มีอุปสรรค ภายใต้เงื่อนไขของรัฐธรรมนูญบางข้อก็ตาม พร้อมเห็นว่า นายจเด็จ ไม่ใช่ตัวแทนของ ส.ว.ทุกคน และย้ำว่า มี ส.ว. จำนวนไม่น้อยที่เคยโหวตสนับสนุนปิดสวิตซ์ ส.ว.
อย่างไรก็ตาม ขอโอกาสให้พรรคก้าวไกลได้ทำงานได้บริหารประเทศ ให้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ หากไปต่อไม่ได้ ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง.-สำนักข่าวไทย