เยาวชนคว้ารางวัล โครงงานด้านวิศวะ ระดับโลก

ทำเนียบ 26 พ.ค.- นายกฯ ชื่นชมตัวแทนทีมเยาวชนไทยทำผลงานยอดเยี่ยม ในการแข่งขันโครงงานวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมสำหรับเยาวชนระดับโลก 2023


นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานจาก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ถึงผลการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมสำหรับเยาวชน ระดับโลก ในรายการ Regeneron International Science and Engineering Fair 2023 ระหว่างวันที่ 13-19 พฤษภาคม 2566 ที่ เมือง Dallas รัฐ Texas สหรัฐอเมริกา

โดยในการประกวดครั้งนี้ มีเยาวชนและนักเรียนเข้าร่วมการประกวดถึง 1,600 คน จาก 63 ประเทศทั่วโลก ผลจากการประกวด มีทีมตัวแทนเยาวชนไทย ได้รับรางวัลในหลากหลายประเภท เช่น


ทีมจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ได้รับรางวัลสุดยอดนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ (Regeneron Young Scientist Awards) ซึ่งเป็นรางวัลที่สะท้อนถึงการทำงานอย่างจริงจังของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ เพื่อแก้ปัญหาความท้าทายของโลกอนาคต โดยใช้แนวคิดที่สร้างสรรค์แตกต่าง และรางวัล Grand Awards อันดับ 1 สาขาสัตวศาสตร์ ในโครงงาน“การเพิ่มอัตราการรอดของแมลงช้างปีกใสจากพฤติกรรมการฟักและการเลือกกินอาหาร (Innovation for Optimizing Lacewing Survivability)” นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัล Grand Awards อันดับที่ 3 จากสาขาเดียวกันในโครงงาน “วิธีการยั่งยืนในการควบคุมปัญหาการเป็นศัตรูพืชของหนอนด้วงสาคู” (Approach to Control Red Palm Weevil Pests) อีกทั้ง โครงงานนี้ยังได้รับรางวัล Special Award อันดับที่ 2 จากหน่วยงาน U.S. Agency for International Development (USAID) ในสาขา Agriculture and Food Security

ทีมจากโรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ จ.เชียงราย ได้รับรางวัล Grand Awards อันดับที่ 2 สาขาสัตวศาสตร์ จากโครงการ “วิธีการใหม่ในการตรวจสอบการติดเชื้อโรคเพบริน (Pebrine Disease Detection Using Silkworm Phototaxis)” และ ทีมจากโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี ได้รับรางวัล Grand Award อันดับที่ 2 สาขาวิทยาศาสตร์โลกและวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ในโครงการ “การพัฒนานวัตกรรมซ่อมแซมป่าหลังเกิดไฟป่าเลียนแบบโครงสร้างของผลน้อยหน่าเครือ (A Novel Seed Delivery System for Effective Reforestation)”

ทีมโรงเรียนกำเนิดวิทย์ จ.ระยอง ได้รับรางวัล Grand Award อันดับที่ 3 สาขาฟิสิกส์และดาราศาสตร์ จากโครงงาน “การศึกษาแบบจำลองผลของสนามแม่เหล็กต่อพายุทรงหลายเหลี่ยมบนดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์โดยหลักความไม่เสถียรเชิงอุทกพลศาสตร์ (Study of Polygonal Cyclones on Jupiter and Saturn)”นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัล Grand Award อันดับที่ 4 สาขาชีววิทยาเชิงคำนวณและชีวสารสนเทศศาสตร์จากโครงการ “PROSynMOGN: การปรับปรุง Graph Neural Networks สำหรับโมเลกุลเพื่อทำนายการเสริมฤทธิ์ของยาคู่ผสมสำหรับรักษาโรคมะเร็งที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลการแสดงออกของโปรตีน”


ทีมจากโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จ.เชียงใหม่ ได้รับรางวัล Grand Award อันดับที่ 4 สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ปริวรรต (Translational Medical Science) จากโครงงาน ออร่า “ผู้ช่วยป้องกัน ชะลอ และฟื้นฟูข้อเสื่อม” (O-RA: Osteoarthritis Rehabilitation Assistant) นอกจากนี้ โครงการนี้ยังได้รับรางวัล Special Award อันดับที่ 1 จากหน่วยงาน : Sigma Xi, The Scientific Research Honor Society ในสาขา: Life Sciences Discipline “นายกรัฐมนตรีชื่นชมความสามารถของทีมตัวแทนเยาวชนไทยที่แสดงศักยภาพ และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนได้รับรางวัลจากหลายประเภทโครงงานในการประกวด และได้แสดงถึงศักยภาพทางความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเยาวชนไทย ให้เป็นที่ประจักษ์ในการแข่งขันระดับสากล ทั้งนี้ รัฐบาลเชื่อมั่นในศักยภาพของเยาวชนไทย และขอบคุณที่นำความสำเร็จ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย” นายอนุชากล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

นายกฯ วางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ เนื่องในวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์

นายกรัฐมนตรี วางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เนื่องในวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ พุทธศักราช 2568 ณ ปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า

เครื่องจักรหนักทำงานต่อ เน้นรื้อถอนซากอาคาร โซน D

ช่วงบ่ายวันนี้ เครื่องจักรหนักเริ่มทำงานต่อ เน้นเคลียร์รื้อถอนซากอาคาร โซน D พร้อมเจาะหาโพรงเข้าหาผู้สูญหายเพิ่ม

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ คาดโซน C พบผู้เสียชีวิตมากสุด

เข้าสู่วันที่ 10 ค้นหาผู้ประสบภัยในซากตึก สตง.ถล่ม “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” คาดโซน C น่าจะพบผู้เสียชีวิตมากที่สุด เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตบริเวณนี้ประมาณ 10-20 ร่าง ด้าน “ช่างเบิร์ด” ที่ทำงานวางระบบไฟฟ้า เผยเจรจากับบริษัทผู้จ้างมาแล้ว 3 ครั้ง แต่จนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับเงินที่ค้างอยู่